[Specialty]- Fiction – kuroko no basket – snowman
[ merry Christmas ]
[Specialty]- Fiction –
kuroko no basket – snowman
We wish
you a merry Christmas…
We wish
you a merry Christmas
We wish
you a merry Christmas…
And a happy new year…
บทเพลงเทศกาลวันคริตส์มาสที่ล่องลอยมาตามสายลมตามด้วยเสียงของเปียโนสมทบประกอบกับเสียงขับร้องประสานเสียงของเด็กๆในโบสถ์
ใบหน้าละอ่อนอ้าปากพะงาบเปล่งเสียงร้องอันไพเราะอย่างพร้อมเพรียงรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน..
บทเพลงบรรเลงไปเรื่อยๆจนจบตามมาด้วยเสียงปรบมือรัวๆของผู้คนมาเป็นทอดๆ
ในคืนวันที่ยี่สิบสามของเดือนธันวาคมแล้วอีกสองวันที่จะเริ่มงานวันคริสต์มาสการซักซ้อมร้องเพลงประสานเสียงเป็นไปได้ด้วยดี
“เสียงต้องดังกว่านี้อีกสักนิด” ใบหน้าเคร่งขรึมของหนุ่มนักเปียโนจ้องมองเด็กๆด้วยสายตาคาดโทษนิดๆ
“ครับๆขอโทษครับอาจารย์มิโดริมะ” ใบหน้าน้อยๆพยักหน้าเบาๆ
“แหม..มิโดริมะซังจะเข้างวดไปริเปล่า”
ชายหนุ่มผมสีดำขลับสวมหมวกถักไหมพรมยืนอยู่หน้าประตูโบสถ์ใบหน้ายิ้มแย้มอันสดใสถึงแม้ว่าอากาสจะหนาวเย็นก็ตามนั้นคือนิสัยของเขา
“ทาคาโอะ..นายเลิงานแล้วงั้นเหรอ”ร่างสูงโย่งผมสีขาวเดินตรงเขาไปหาพลางสวมกอดตามประสาเพื่อนสนิท
“อื้มฉันกลับมาแล้วนี่ก็ค่ำมืดแล้วนะชินจังนายปล่อยเด็กๆกลับบ้านได้แล้ว”
ทาคาโอะคลายมือออกแล้วมองไปยังเด็กๆที่ยืนมองพวกเขาสองคนอยู่
มิโดริมะทำตามอย่างว่าง่ายถึงแม้จะทำสีหน้าไม่พอใจก็ตามที
“เอาเป็นว่าวันนี้พอแค่นี้ก่อนก็แล้วกัน”
เขาเว้นวรรคคำพูดไปชั่วครู่หนึ่งแล้วพูดต่อไปอีกพลางชี้นิ้วสั่ง
“แต่อย่าลืมเอาไปฝึกที่บ้านด้วยก็แล้วกันพรุ่งนี้ก็วันจริงแล้วเข้าใจไหมหืม..”
“คร้าบบบบบบบ // ค่าๆๆๆๆ” เด็กๆรับทราบคำสั่งเป็นเสียงเดียวกัน
................................................................................................................................................................................
“ไปไงบ้างไทกะซ้อมร้องเพลงไปถึงไหนกันแล้วไปได้ด้วยดีรึเปล่าเอ่ย...”
ชายหนุ่มหน้าสวยที่มีไฝใต้ตาข้างซ้ายถามด้วยรอยยิ้มอย่างเอ็นดูในขณะที่ร่างเล็กกำลังเคี้ยวขนมแก้มตุ่ยอยู่
“อ่า..อ้อไอ้เอ้าไอ่(ก็ไม่เท่าไหร่)”
“มิโดริมะเซนเซย์เข้มงวดมากเลยล่ะ” เด็กน้อยตอบด้วยสีหน้าที่ไม่สู้ดีนัก “ฮะๆงั้นเหรออย่านั่นก็นิสัยของมิโดริมะนี่นา”
ชายหนุ่มหัวเราะเหมือนเห็นเป็นเรื่องขบขัน “ง่า..พี่ทัตสึยะง่า”
พอเด้กน้อยเห็นท่าทีที่ตรงกันข้ามกับความรู้สึกของเขาใบหน้านิ่มๆกลายสภาพเป็นทำหน้าบึ้งแก้มตุ๊บป่องอย่างหน้าเอ็นดู
มือเรียวขยี้หัวคนตัวเล็กเบาๆอย่างหมั่นเขี้ยว “ว่าแต่ไทกะอยากกินอะไรล่ะในมื้อเย็นนี้น่ะ”
เขาหันมาถามเด็กน้อยที่นั่งอยู่บนโต๊ะอาหาร “สุกี้” “หืม...ได้เลยวางใจพ่อครัว ฮิมุโระ
ทัตสึยะคนนี้ได้เลย”
................................................................................................................................................................................
ในห้องชั้งสองของตัวบ้านห้องนอนที่จัดอย่างเป็นระเบียบด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่เรียบง่ายเตียงขนาดควีนไซส์ตั้งอยู่ติดหน้าต่างร่างเล็กของเด็กชายวัยแปดขวบนั่งอยู่นัยน์ตาสีแดงเพลิงจ้องมองเม็ดกลมๆสีขาวของหิมะที่กำลังโปรยปรายลงมายังพื้นราบ
ปากน้อยๆกำลังพึมพำอะไรสักอย่างจนจับใจความของเพลงได้
We wish
you a merry Christmas…
We wish
you a merry Christmas
We wish
you a merry Christmas…
And a happy new year…
Glad
tidings we bring to you and your
kin…..
เด็กชายหยุดชะงักดวงตาสีเพลิงที่สะท้อนภาพของหิมะหลุบต่ำลง
“ถ้าคุณแม่อยู่ด้วยก็คงจะดีสินะ”
หยาดน้ำใสๆเอ่อโล้นจากหน่วยตาลงมาโดยไม่ได้ตั้งใจเด็กชายยกแขนเสื้อเช็ดน้ำตาออกไป
เราจะร้องไห้ไม่ได้นะคากามิไทกะ เขาบอกกับตัวเอง
ท่ามกลางความเงียบในค่ำคืนอากาศหนาวในฤดูของงานเทศกาลแห่งความสุขของวันคริสต์มาสหากเพียงแต่คนอย่างเขาเองไม่มีความสุขเลยสักนิดพอถึงวันคริสต์มาสทีไรความทรงจำที่กี่ยวกับแม่ของเขาก็ผุดขึ้นมาในหัวทันที
ทั้งความทรงจำที่ดีและไม่ดีในเวลาเดียวกัน
ภาพของเลือดสีแดงฉากที่ไหลออกมาจากหัวของผู่เป้นแม่พร้อมรอยยิ้มและน้ำตาที่หยาดไหลย้อยอาบก้มรวมถึงเสียงสะอึ้นร่ำไห้ท่ามกลางหิมะขาว
ภาพในตอนนั้นแม้แต่ตอนนี้ถึงผ่านไปนานศักกี่ปีคนอย่างเขาก้ไม่เคยลืม
จากที่เด็กดีไร้เดียงสา กลับ
กลายเป็นเด็กที่ซุกซ่อนแบกปัญหาเอาไว้กับตัวเองภายนอกที่ดูเข้มแข็งแต่ข้างในจิตใจที่สั่นไหวและอ่อนแอนั่นล่ะคือ
คากามิ ไทกะ ล่ะ
“แม่ครับ..ว่าแต่snowmanนี่มีจริงรึเปล่าครับ”
ภาพความฝันในวันวานที่เกี่ยวกับแม่ผุดขึ้นมาเหมือนกับแผ่นฟิล์มฉายหนังเก่าที่ฉายซ้ำอีกครั้งความทรงจำอันเจ็บปวดที่ยังคงตามมาหลอกหลอนอยู่ร่ำไป
“ก็มีจริงสิจ๊ะ..แม่เคยเจอมากับตัวเลยนะ”
“งั้นเหรอครับแล้วผมจะได้เจอเขาไหมอ่า..”
เด็กชายตอบด้วยความคาดหวังรอลุ้นอย่างเต็มเปี่ยม
หญิงสาวผมสีเพลิงฉีกยิ้มแป้นแล้นแล้วตอบกลับไปว่า “ต้องได้เจอแน่นอนจ้า..ถ้าไทจังเป็นเด็กดีอ่ะนะ”
มือที่แสนอบอุ่นของมารดาลูบหัวของเขาเบาๆอย่างเอ็นดู
“จะได้เจอแน่เหรอ..Snowman
ถ้ามีจริงๆก็ดีสิ” เด็กชายพึมพำออกมาด้วยความสิ้นหวัง
สักพักหนึ่งคากามิน้อยรู้สึกว่าเปลือกตาของเขาเริ่มหนักอึ้งแล้วกำลังจะปิดภายในไม่ช้าแต่ในท้ายที่สุดแล้วเด็กชายตัวน้อยก็เผลอหลับไป
We wish
you a merry Christmas…
We wish
you a merry Christmas
We wish
you a merry Christmas…
And a happy new year…
Glad
tidings we bring
to you
and your kin…..
Gland tidihgs for Christmas
And a happy new year….
เสียงเพลงที่คลอมากับสายลมหนาวท่างกลางหิมะที่ตกโปรยปรายลงมาอย่างไม่ขาดสาย
เสียงขับขานบทเพลงวันคริสต์มาสดังกังวานอยู่ ณ ที่นั้น
เสียงเพลงอันไพเราะเสนาะหูนั่นค่อยไกล้เข้ามาเรื่อยๆ
ริมฝีปากเรียวสวยขยับปากเปล่งเสียงร้องอันชวนน่าฟังสีผิวขาวซีดกลมกลืนไปกับหิมะหมวกไหมพรมสีขาวที่สวมทับเส้นผมสีท้องฟ้าเอาไว้ใบหน้าจิ้มลิ้มน่ารักชุดคลุมสีขาวทั้งชุด
อุณหภูมิในร่างกายเย็นเฉียบเขามาพร้อมกับเสียงเพลงอันไพเราะเด็กหนุ่มปริศนาที่ปรากฏตัวท่ามกลางหิมะขาวในยามวิกาล
Snowman….
คากามิสะดุ้งตื่นขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุทันทีที่ตื่นเขาได้ยินเสียงเพลงคริสต์มาสที่ดังคลอออกมาถึงแม้จะแผ่วเบาแต่หูของเขาก็ยังพอได้ยินเป็นเหมือนเสียงกระซิบ
เขารีบหยิบไฟฉายขึ้นมาเดินลงบันได้อย่างแช่มช้าเพื่อไม่ให้คนในบ้านตื่นเดินต่อมาเรื่อยๆจนถึงประตูหน้าบ้านคากามิยืนนิ่งไปสักพักแล้วตัดสินใจเปิดประตูออกไปโดยไม่ลืมหยิบร่มออกไปด้วย
“นั่นใครกันน่ะ...ทำไมถึงมายืนอยู่แบบนี้ไม่หนาวรึไงนะ”
เขาพึมพำอยู่กับตัวเอง
เสียงเพลงร้องปากเปล่าหยุดชะงักแล้วหันกลับมามองคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า
“หืม...เธอคือคากามิคุงสินะครับ”
ชายหนุ่มหันหน้าพร้อมกัยเอ่ยชื่อของเด็กชายทั้งรอยยิ้ม
“ท..ทำไมพี่ชายถึงรู้จักชื่อผมล่ะพี่ชายเป็นใครกันแน่.”
คากามิถามด้วยความแปลกใจของส่ายหน้า “ผมก็แค่คาดเดาเท่านั้นแหล่ะครับ
ส่วนผมเป็นใครนั้นแม้แต่ตัวผมเองก็ยังไม่รู่เหมือนกันน่ะครับ”
ใบหน้าที่นิ่งเฉยกล่าวด้วยเสียงเรียบ “แล้วพี่ชายชื่ออะไรอ่ะ” คากามิถามเขา
ชายหนุ่มส่ายหน้าอีกครั้งพร้อมคำตอบ “ผมไม่มีชื่อน่ะครับ”
รอยยิ้มน้อยๆปรากฏอยู่บนใบหน้านิ่งๆ ตรงกันข้ามกับเด็กชายตรงหน้าที่ทำหน้างงปนประหลาดใจ
“จริงอ่ะ..” เขาพยายามที่จะไม่เชื่อหูของตัวเอง
สายตาสีเพลิงชายมองลักษณะรูปร่างบุคคลิกการแต่งตัวรวมถึงใบหน้าจากนั้นแล้วเพียงเวลาเสี้ยวนาทีเขาเด็กชายใช้เวลาในการประมวลผลของความคิดอยู่สักครู่
ดวงตาสีฟ้าเข้ม ผิวสีซีดเหมือนหิมะ ผ้าพันคอ
หมวกไหมพรมสีดำ คุโรโกะ ชิโระยูกิ ..
“คุโรโกะ..ชิโระยูกิเป็นไงมั่ง”
คากามิฉีกยิ้มกว้าง ชายหนุ่มพยักหน้า “เป็นชื่อที่ดีนะครับ.หึ”
ริมฝีปากสีระเรื่ออมยิ้ม
“ใช่ไหม...ล่ะ”
“ครับ”
“ว่าแต่ทำยังไงถึงจะร้องเพลงนั้นได้เพราะเหมือนพี่คุโรโกะอ่ะ”
คากามิถามเขาด้วยความสนใจ
แววตาสีน้ำทะเลลึกชายตาไปทางซ้ายเพียงอึดใจหนึ่งพร้อมกับคำตอบ
“ร้องเพลงด้วยหัวใจครับ”
คำตอบที่ดูเหมือนจะธรรมดาแต่ความหมายมันกลับลึกซึ้งสำหรับเขา
.............................................................................................................................................................................
ในห้องนอนที่ปกคลุมไปด้วยความมืดแต่ยังมีแสงสลัวจากทางหน้าต่างอยู่เพียงน้อยนิด
ในคืนนั้นช่วงเวลาอันดึกสงัดบนเตียงนอนที่มีผ้าปูเขาสะอาดถูกทาบทับรองรับร่างเล็กของเด็กชายคากามิ
นัยน์แววตาของเขาดูเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่
ร้องเพลงด้วยหัวใจ...
คำพูดของคุโรโกะผุดขึ้นมาในหัวของเขา
ร้องเพลงด้วยหัวใจงั้นเหรอ...
เขาย้ำเตือนคำพูดของชายคนนั้นตามด้วยเปลือกตาอันหนักอึ้งปิดลงไป
................................................................................................................................................................................
ในที่สุดคืนวันแห่งความสุขสันต์และงามเฉลิมฉลองในวันที่
25 ธันวาคม
ก็ได้เริ่มต้นขึ้นตามอาคารบ้านเรือนต่างๆเต็มไปด้วยแสงสีของหลอดไฟหลากสีประดับประดาอยู่ตามรั้วหรือตามป้ายเทศกาลรวมทั้งต้นคริสต์มาสที่เป็นตัวเก็งสำคัญของวันคริสต์มาส
ขณะที่ในโบสถ์ที่เป็นศูนย์กลางของผู้คนชาวคริสต์เพียงชั่วอึดใจเดียวเสียงของเครื่องดนตรีเปียโนดังขึ้นตามมาด้วยเสียงของเพลง We
wish you a merry Christmas ที่ดังคลอไปกับเสียงเพลงในครั้งนี้เสียงเพลงในวันคริสต์มาสในวันนี้ไพเราะยิ่งกว่าการซ้อมร้องเพลงกว่าวันไหนๆ
อาจารย์หนุ่มมิโดริมะยิ้มน้อยๆด้วยความพึงพอใจในตัวของเด็กๆ
“หืม.ดูมีความสุขดีจัง..” คุโรโกะ
ที่ยืยมองอยู่ตรงบันไดหอระฆังของโบสถ์แห่งนี้
รอยยิ้มน้อยๆปรากฏอยู่บนใบหน้าแววตาที่เปี่ยมล้นไปด้วยความสุข
ในวันคริสต์มาส
อยากให้ช่วงเวลานี้มีอยู่ตลอดไปจะดีไหมนะ
อยากหยุดเวลาอยู่ตรงนี้
ไม่อยากให้ช่วงเวลาอันมีค่านี้หายไปเลย
เพราะว่าวันนี้เป็นวันสุดท้ายที่การมีตัวตนของผมกำลังจะหายไป
เมื่อไหร่กันที่คำสาปจะคลายลงกันนะ คากามิ..คุง
เสียงคร่ำครวญด้วยความโศกเศร้าที่ดังก้องอยู่ในใจของชายหนุ่มในเพียงพริบตาหลังจากหันมามองอีกทีร่างของเขาก็อันตธานหายไป
................................................................................................................................................................................
“ ไทกะเป็นการแสดงที่ดีนะการร้องประสานเสียงของนายน่ะทำได้ดีมากเลย”
ฮิมุโระกล่าวชมแล้วอมยิ้ม คากามิอมยิ้มแล้วส่ายหัว
“ความจริงแล้วนี่ถ้าพี่คุโรโกะคนนั้นไม่ช่วยผมผมคงร้องเพลงที่ออกจากใจจริงไม่ได้แน่ๆ”
ฮิมุโระทำหน้าฉงนงงหยุดไปซักพัก “หืมเพื่อนใหม่ของไทกะสินะ” “อื้ม”
คากามิพยักหน้าตอบ
“งั้นผมไปหาเขาไดรึเปล่าล่ะทัตสึยะ”
คากามิพูดเชิงขออนุณาติ “อืมไปได้สิ”
“งั้นผมไปนะ”
“อื้มไปดีมาดี..เอ้ย..ต..แต่ไทกะ..มันมืดแล้วนะเฮ้เห้ยไทกะ.”
ฮิมุโระเพิ่งนึกได้ว่าเขาเผลอพูดอะไรตามความเคยชินของตัวเองไปโดยไม่ดูเวลาหากจะห้ามก็ไม่ทันเสียมือป้อมๆดึงลูกบิดปิดประตูแล้ววิ่งออกไปเสียแล้ว
เด็กชายวิ่งไปบนทุกหนทุกแห่งในเมืองที่ในเวลานี้มีผู้คนอยู่เพียงเบาบางและเงียบสงบขาสั้นๆหยุดกึกอยู่ที่หน้าต้นไม้คริสต์มาสขนาดใหญ่
“หืม..มาแล้วงั้นเหรอครับ”
คุโรโกะชายตาหันมามองเด็กน้อยที่วิ่งกระหืดกระหอบมมาหมาดๆ “ขอบคุณนะ”
“ถ้าพี่ชายไม่บอกผมป่านนี้แล้วผมคงร้องเพลงเพราะไม่ได้แน่ๆ”
ริมฝีปากบางอมยิ้ม “เราเป็นเพื่อนกันนะผมมาหาพี่คุโรโกะทุกว้นได้รึเปล่าครับ” ใบหน้าที่ครั้นกำลังมีความสุขกลับเศร้าหมองลงอย่างเห็นได้ชัด
เขาส่ายหน้าพร้อมน้ำเสียงคำพูดที่สั่นเครื่อ “คงไม่ได้หรอกครับเพราะนี่คือวันสุดท้ายของผมแล้ว”
“หมายความว่ายังไงกันน่ะ” คากามิถามด้วยความงงงวย
“ร้อยปีผมจะปรากฏมายังโลกมนุษย์ครั้งหนึ่ง”
คุโรโกะเอ่ย “หน้าที่ของผมคือการทำให้ผู้คนที่มีความทุกมีความสุข”
“อะไรยังไงผมไม่เข้าใจพี่ชายจะไปไหน”
คากามิรู้สึกกังวลเขาคิดว่านี่อาจจะเป็นเพียงแค่การล่อแต่หากมองดูสีหน้ากับไม่มีการล้อเล่นเลยแม้แต่น้อย
เขาชี้นิ้วขึ้นไปบนท้องฟ้าสีดำอันว่างเปล่าแต่หากเด็กน้อยห้วดื้ออย่างคากามิรึจะเชื่อได้ลง
“อย่ามาล้อเล่นกัน...”
คำพูดขาดช่วงหลังเห็นน้ำตาลของชายหนุ่มร่วงลงมาเป็นเกร็ดหิมะ “พี่ชายเป็นตัวอะไรกันแน่..”
“ผมเป็นภูติหิมะ..” “ที่ผมมาครั้งนี้มีใครคนหนึ่งขอร้องให้ผมมาช่วยเธอๆไทกะคุง”
“เอ๊ะใครงั้นเหรอ”
คากามิเริ่มสงสัยมากขึ้นไปอีก
“คุณแม่ของคุณที่อยู่บนสวรรค์ยังไงล่ะ
รูไหมเขาฝากข้อความนี้ให้ไทกะคุงด้วยนะ”
“ขอให้ไทกะมีความสุข จงมีชิวิตอยู่เพื่อแม่นะ”
หยาดน้ำตาใสๆร่วงเผาะลงมาไม่ขาดสายเสียงสะอึ้นที่ดังมาอย่างเป็นระยะ
“ผม...ผม..”
“ไม่ต้องพูดอะไรแล้วนะครับ”
คุโรโกะกอดเขาเนบกับหน้าอก “เพราะต่อจากนี้ผมกำลังจะไปแล้ว..”
ร่างกายของเขาเริ่มโปร่งใสลงเรื่อยๆ
“เดี๋ยวก่อน..ตัวตนจริงๆของนายคือ ตัวตนจริงๆของนายคือ...”
ชายหนุ่มกระชบอ้อมกอดแน่นพร้อมกับกระซิบข้างหู
Snowman
[END]
comment writer : เรื่องของการจำกัดเวลามันช่างน่ากลัวจริงๆ งานพันมือหมดแล้ว
ความคิดเห็น