FictionYAOI [ Tokyo Ghoul ] >> Tsukiyama shuu X Kaneki ken - อาหารจานโปรด


Fiction YAOI


Tokyo Ghoul

Tsukiyama x Kaneki

NC-17

อาหารจานโปรด

By  Yuhey








ภายในร้านกาแฟที่ผมชอบแวะวนเวียนแอบสอดแนมอยู่เป็นประจำ

ร้านกาแฟ  " อันเทย์กุ"

สิ่งที่ทำให้ผมติดใจถึงขนาดลงทุนทำตัวเป็นสตอล์กเกอร์นี่ก็เป็นเพราะเขาคนนั้นอาหาร เอ้ย! คนๆนั้นหนุ่มน้อยผ้าปิดตา
"คาเนกิคุง"
ผมเรียกชื่อเขาที่ผมคุ้นเคยในการเรียกเขาอยู่ประจำ
"อะไรเหรอครับคุณทสึกิยามะซัง"
และแน่นอนคาเนกิคุงก็จะเรียกชื่อผมด้วยท่าทางที่เก้อเขินและลังเลกับความประหม่า

"เปล่าไม่มีอะไร"

เพราะแบบนี้แหล่ะผมถึงได้หลงไหลในตัวคนๆนี้ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างที่ผอมบางผิวสีขาวเนียนๆน่าสัมผัสแล้วหน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มที่มองไปแล้วแอบคิดไม่ได้ว่าถ้าเขาเป็นผู้หญิงจะหน้ารักขนาดไหนกันนะ นิสัยที่ไร้เดียงสา อ่อนโยนและนอบน้อม รวมถึงรสนิยมในการอ่านหนังสือของเขาโดยเฉพาะผลงานของ อาจารย์ ทากาซึกิ เรื่อง ไข่แพะสีดำ นี่เป็นเรื่องโปรดของเขาเลยก็ว่าได้ รวมถึง เขา...

ยังเป็นเหยื่อ หรืออาหารอันโอชะของผมเลยด้วย

"คาเนกิคุงเดี๋ยวผมมานะครับ"
ผมขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อมเมื่อบรรยากาศในร้านเงียบสงบโดยที่อีกฝ่ายไม่พูดอะไรเพราะสนใจผลงานชิ้นใหม่ของอาจารย์ ทากาซึกิ อยู่




ในห้องน้ำที่ดูสะอาดสะอ้านสมกับร้านที่อาจารย์ทากาซึกินั้นมานั่งดื่มกาแฟอยู่บ่อยๆถึงแม้ว่าจะไม่เริ่ดหรูและดูธรรมดาสำหรับผมในขณะที่หำลังประเมินความสะอาดของห้องน้ำผมไม่รีรอที่จะหยิบผ้าเช็ดหน้าที่เปื้อนเลือดของคาเนกิคุงออกมาสูดดม
"อา...กลิ่นนี้ช่างหอมรัญจวนใจจริงๆอา.."
ฟังดูเหมือนผมจะเป็นคนโรคจิตเลยสินะครับ่ผมสูดเอาความหอมหวานของกลิ่นเลือดทีพวยพุ่งฟุ้งออกมาจากผ้าเช็ดหน้าแล้วผมก็มักจะเอามันพกติดตัวมาตลอดเหมือนเป็นสมบัติล้ำค่าของตัวเองไม่ว่าจะสูดดมอย่างไรก็ไม่เบื่อเลย

ถ้าผมลองสัมผัสกัดเนื้อเขากินสักครั้งจะเป็นยังไงกันนะถึงจะเคยลิ้มรสมาครั้งหนึ่งแล้วก็ตามผมอยากจะกลืนกินทั้งตัวและหัวใจของคาเนกิคุงทุกอย่างของเขาต้องเป็นของผมทั้งหมดแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้นความคิดที่เห็นแก่ตัวของผมถ่าฌถมเข้ามาในห้วงความคิดอันชั่ววูบ



และเมื่อ
คิดได้ดังนั้นผมก็รีบเก็บผ้าเช็ดหน้าใส่กระเป๋าเสื้อทันมีก่อนที่จะเดินออกมา

"รอนานรึเปล่าครับ..."

เขาก็ยังทำท่าทางลำบากใจไม่กล้าปฏิเสธผมตามเคย นอบน้อมจังเลยนะ..

หลังจากที่นั่งดื่มกาแฟในร้านได้สักพักผมก็พาคาเนกิคุงไปที่ร้านอาหารผีดิบพร้อมกับเรียกบ๋อยเอาเมนูอาหารมาให้ผมสั่งอาหารตามที่ตัวเองต้องการและแน่นอนว่าต้องเป็นอาหารที่ทำจากเนื้อคนโดยเฉพาะก็เพราะว่าผมเป็นกูลนี่นาส่วนคาเนกิคุงเขาก็สั่งแต่กาแฟมาดื่ม

และหลังจากนั้น..

ผม

ก็พาเขามาที่คฤหัสถ์ที่ผมพักอยู่

คฤหัสถ์ตระกูล ทสึกิยามะ

แน่นอนว่าต้องเป็นพื้นที่ๆเขาชอบแน่ๆ


ภายในตัวคฤหัสถ์สีขาวสวยงามที่ล้อมรอบไปด้วยสวนกุหลาบสีแดงที่เมื่อสีแดงชาดของมันต้องกับแสงแดดก็จะทำให้มันสวยงามสว่างเจิดจ้าอย่างหน้าประหลาดใจและดูเหมือนคาเนกิคุงคงจะตื่นตาตื่นใจไปกับความสวยงามของมัน
แต่หากคุณรู้รึเปล่าล่ะครับคาเนกิคุงคุณก็เหมือนดอกกุหลาบที่เบ่งบานแล้วสวยงามที่สุดถ้าเทียบกับดอกไม้ที่อยู่ที่นี่และในตอนนี้คุณจะรู้รึเปล่าล่ะนะครับ
แล้วผมล่ะจะผิดไหมที่จะเป็นคนเด็ดดอกไม้งามอย่างคุณลงมาน่ะครับ

เมื่อผมคิดเช่นนั้นแล้วแววตาที่ตีหน้าหนุ่มซื่อสะท้อนความเจ้าเล่ห์ออกมา

ในห้องสมุดที่อยู่ในห้องชั้นใต้ดินของคฤหัสถ์เป็นแหล่งที่รวมหนัวสือหลากหลายแทบทุกชนิดหลากหลายที่ผมรวบรวมมา
หนังสือทั้งหมดที่ถูกจัดเรียงเป็นระเบียบในชั้นหนังสือที่สูงตะหง่านแทบจรดฝ้าเพดาน

" เอ..นั่นมัน แฮมเลต ของเชคเสปียร์นี่นา"

เสียงของคนตัวเล็กที่ถือหนังสือปกสีขาวเดินมาอย่างยิ้มระรื่นจนแก้มขึ้นสีระรื่อรอยยิ้มของเขาถึงแม้ว่ามันจะไม่มีอะไรเป็นพิเศษก็ตามแต่ไม่ว่าจะมองยังไงผมก็ไม่เบื่อเลยแต่กลับรู้สึกดีอย่างหน้าประหลาดซึ่งผมเองก้ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันไม่รู้ทำไม

"นี่คาเนกิคุงไปหาที่อ่านหนังสือเงียบๆกินสองคนเถอะนะ" ผมกล่าวชวนเขาไปอีกโดยไม่เปิดโอกาสให้เขาเป็นฝ่ายชวน
ขาเรียวเล็กในชุดกางเกงสีดำก้าวออกมาจากประตูใหญ่ที่แกะสลักประณีตสวยงามราคาที่น่าจะตีประมูลได้หลายล้านเลยทีเดียว


ผมเดินตามทางคฤหัสถ์ที่ทางเดินปูพรมสีแดงหน้าต่างขนาดบานใหญ่ที่ติดอยู่กับประตูบานใหญ่ที่ทำจากไม้ชั้นดีอันประณีตหลายบานโคมไฟสไตล์ฝรั่งเศสระย้าสีใสเหมือนเกล็ดแก้วคริสตัสที่พอเปิดแสงไฟก็จะประกายระยิบสวยงามเรียงรายกันอย่างสม่ำเสมอกัน

ผมเดินไปแล้วหยุดชะงักเมื่อถึงทางขึ้นบันไดก่อนที่จะหันมาก็พูดว่าคนตัวเล็กไม่อยู่เสียแล้วเมื่อผมเห็นแบบนั้นก็ไม่รีรอเลยครับ
ผมรีบวิ่งตรงดิ่งไปที่ร้านอาหรผีดินนั้นทันทีแล้วรีบตรงดิ่งไปที่ชั้นใต้ดินตรงลานหั่นเนื้อแน่ๆไม่ผิดแน่ๆผมว่าอย่างนั้น
ผมรีบสวมหน้ากากพระจันทร์เสี้ยวพร้อมตรงดิ่งไปที่อัฒจันทน์ด้วยความเร็วแสงทันที
เสียงปรบมือของเหล่าผู้คน(ผีดิบ)สวมหน้ากากไม่ซ้ำแบบกับการแต่งตัวที่เริ่ดหรูตามสไตล์ตะวันตกดูเผินเหมื องโรงละครโอเปร่าแต่ไม่ใช่เลยนี่คือเกมส์นรกของเหล่ามนุษย์แุต่ในขณะเดียวกันที่พวกเราเห็นเป็นเพียงการแสดงและการบันเทิงบวกกับวัตถุดิบเราอาหารชั้นยอดสำหรับพวกเราก็เท่านั้น

["เอาล่ะครับทุกท่านสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีทุกท่านอาหารมื้อค่ำในคืนนี้คือวัตถึดิบอาหารที่มาดามAตกมาได้โดยบังเอิญ"]

["หลังจากที่พวกเรารอคอยกันมานาน"]

เสียงพิธีกรสวมหน้ากากพูดขึ้นผมเบิกตาโพล้งขึ้นด้วยความวิตกกังวลเป็นอย่างมากหัวใจผมเต้นไม่เป็นสำเหงื่อแตกพลั่กๆคอยรอดูสถานะการณ์ว่าอาหารมื้อค่ำนี้คือใครคงไม่ใช่คาเนกิคุงใช่ไหมคงไม่ใช่แน่ๆผมขอภาวนาอย่างนั้น

["เนื้อกูลที่มีกาคุกันเพียงข้างเดียวจะอร่อยขนาดไหนเรามาดูกันนะครับ"]

สิ้นเสียงพิธีกรแล้วบรรยากาศและทุกสรรพสิ่งโดยรอบแล้วกลับเงียบกริบทุกคนทั้งหมดล้วนใจจดใจจ่อรอลุ้นอยู่ว่าอาหารมื้อค่ำนี้จะมีลักษณะยังไง

ภายในลานกว้างที่ว่างเปล่าแต่เดี๋ยวนี้กับมีเหล่าชายฉกรรจสวมหน้ากากตัวตลกถืออุปกรณ์การชำแหละออกมากับเก้าอี้ที่มีร่างปริศนาที่ถูกคลุมอยู่ด้วยผ้าสีขาว


'พรึบ'

"กะ...ค.คาเนกิคุง!!!!!"

ทันทีที่ผ้าขาวถูกดึงออกมาหัวใจผมแทบจะหยุดเต้น

["เรามาลิ้มลองกันเลยดีกว่าครับถ้าเรากินเนื้อของกูลตาเดียวที่กำลังเปี่ยมไปด้วยความต้องการทางเพศสูงแบบนี้"]

เสียงเฮของเหล่าแขกรวมถึงคนที่อยู้บนอัฒจันทน์ร้องเฮกู่ก้องด้วยความปิติดีใจแต่ก็มีเพียงแต่ผมที่เสียงท่าทีกระวนกระวายไม่เป็นสุข

ผมมองไปยังลานกว้างร่างเล็กที่ที่นั่งติดเก้าอี้ถูกมัดพันด้วยเทปสีเทาติดกับลำตัวบริเวณเอวเพรียวบางกับขาที่ถูกมัดพันติดกันมือที่ถูกมัดไขว้หลังใส่เก้าอี้เสื้อผ้าหลุดหลุ่ยกางเกงสีดำถูกรูดลงมาจนถึงหัวเขาผมหันขวับไปมองจ้องพิธีกรหน้านิ่งเขาแสยะยิ้มเยาะอย่างมีชัยก่อนที่ผมจะหันไปจ้องถลึงตาใส่มาดามAอย่างเกรี้ยวกราดเธอหัวเราะเยาะผมอย่างสะใจ

["สเคปเปอร์ของเราในวันนี้นะครับก็คือ ซันสึ จังครับ!"]  ชายหนุ่มผมดำเดินออกมาพร้อมกับเครื่องมือในการหั่นออกมาไม่ว่าจะเป็นดาบ และเลื่อยไฟฟ้าเล่มโตๆออกมาผมไม่รีรอและไม่ลังเลที่จะกระโดดลงมาจากอัฒจันทน์แล้วรีบชักคากุเนะโควคาคุออกมาตัดเทปสีเทาบ้าๆนั่นออกก่อนที่จะคว้าอุ้มคาเนกิของผมออกมาแล้วรีบกระโดดหนีไป
ไม่รู้ว่าผมจะพาเขาหนีไปไหนดีในที่ๆไม่ทำให้ใครจับได้

"แฮ่ก...แฮ่กๆ..คะ..คุณทสึกิยามะ" เสียงหอบหายใจถี่ของร่างบอบบางที่อยู่ในอ้อมอกของผมดูเหมือนว่าพวกเขาจะวางยาปลุกSexให้คาเนกิคุงรึเปล่ากันนะแต่ตอนนี้ผมไม่มีเวลาที่จะไปคิดอย่างนั้นก่อนที่จะฟังคนตัวเล็กพูดขึ้นอย่างติดๆขัดๆ

"ผะ..ผม..อยาก..กลับ..บ้าน" เสียงพูดตะกุกตะกักเป็นเพราะหายใจติดขัดพูดมาอย่างยากลำบากผมไม่รอช้ารีบพาเขาเข้าไปที่หอพักที่คาเนกิคุงอาศัยอยู่

ในห้องที่คับแคบที่สามารถอยู่ได้แค่คนเดียวหรือมากกว่านั้นเป็นชีวิตที่ธรรมดาต่างจากผมโดยสิ้นเชิงราวกับหลุดไปอยู่โลกอีกโลกหนึ่งที่ธรรมดาจืดชืดเหมือนไม่มีรสชาติต่างจากผมที่วันๆเอาแต่สังสรรค์ปาร์ตี้อยู่ตามงานหรือไปสังสรรค์เฮฮาอยู่ตามผับบาร์

ผมวางร่างบางที่อ่อนระทวยสั่นระริกเพราะฤทธิ์ยาลงที่เตียงก่อนที่จะลุกออกไปแต่ก็โดนมือเรียวบางรั้งเอาไว้พร้อมกับคำพูดที่ทำให้ผมเกิดความต้องการที่อยากจะกินเขาขึ้นมาทันควัน

"ผมทรมาน...ทรมาน."
เป็นเรื่องธรรมดาที่เขาจะรู้สึกแบบนี้ผมรู้ดีมันเป็นยาชนิดปลุกเร้าแบบพิเศษที่เร่งความต้องการของผู้ที่ได้รับสารเข้าไป และ เป็นยาที่กระตุ้นให้เลือดนั้นสูบฉีดให้เร็วขึ้นถ้าเป็นมนุษย์ธรรมดาเขาคงจะกระอักเลือดออกมาตายตั้งแต่ 1 ชั่วโมงแรกที่ได้รับยาเข้าไปแล้ว

"ทรมาน..แฮ่กๆ... แฮ่กๆๆๆ.."

เสียงจังหวะการหายใจหอบเริ่มรุนแรงขึ้นมาเรื่อยๆกับบางสิ่งบางอย่างที่ลุกชันโผล่นูนออกมาจากกางเกงกับร่างกายที่สั่นสะท้านของเขา


ผมคงไม่มีทางเลือกสินะ...

ผมพินิจพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้วหันเหลือบมามองคาเนกิคุงผู้แสนจะน่ากัน เอ้ย! ผู้แสนจะน่ารัก แต่ถ้าทำเรื่องอย่างว่าโดยพละการและที่อีกฝ่ายนั้นยังไม่ยินยอมที่จะร่วมด้วยมันก็ยังไงยังไงอยู่มันก็เท่ากับว่าเป็นการขืนใจอีกฝ่ายมากว่าเสียอีกแทนที่จะเป็นการช่วยเหลือ(?)ซึ่งกันและกัน

"ทสึกิยามะซัง.."

"อา.."

" คาเนกิคุง.." ผมพยายามเก็บกดอาการแต่เมื่อเห็นดวงตาอันหวานเยิ้มกว่าเมื่อกี้ที่คิดจะเชื่อมให้ผมหลอมละลายทั้งเป็นและใบหน้าที่อ่อนระทวยหน้าแดงก่ำมากขึ้นไปอีกกลิ่นหอมเฉพาะตัวที่มีเพียงแค่กูลเท่านั้นที่ได้กลิ่นโชยกลิ่นหอมหวานที่ชวนน้ำลาบส่อออกมาจากตัวเขา

"คุณต้องการให้ผมช่วยสินะครับ"
หคุกันสีดำครอบตาทั้งสองข้างของผมโดยอัตโนมัติตามสัญชาติญาณของกูลด้วยความหิวกระหายผมกระโจนขึงร่างเล็กพร้อมกับฝังคมเขี้ยวฟันกัดลงไปที่บริเวณซอกไหล่ซ้ายของคนตัวเล็กครอบเลือดสีแดงสดเปรอะเปื้อนตามปากและใบหน้าของผมเพียงเล็กน้อย

อา..รสชาติช่างหอมหวานกลมกล่อมนุ่มลิ้นอะไรเช่นนี้
"ทสึกิยามะซัง" มือเรียวของร่างเล็กจับที่โคลงใบหน้าของผมน้ำตาคลอที่แสดงถึงความเจ็บปวดผมรู้สึกโล่งใจหายทันที
ดีนะที่เขาเอ่ยเรียกชื่อผมและห้ามปรามหยุดผมเอาไว้ก่อนที่ผมเองจะควบคุมตัวเองไม่ได้ไปมากว่านี้
ผมผละออกจากเขาแล้วอ่อนข้อกำลังลง กาคุกันสีดำค่อยๆจางลงและในขณะที่ที่ผมจะลุกออกไปแต่ก็ถูกมือบางดึงเนกไทเอาไว้ด้วยแรงดึงบวกกับที่ผมยังไม่ทันที่จะตั้งตัวทำให้ริมฝีปากของผมแทบจะจรดริมฝีปากของอีกฝ่ายอยู่ไกล้กันเพียงไม่ถึงหนึ่งเซนด้วยซ้ำไป

"จะดีเหรอครับคาเนกิคุง"
ผมถามเขาด้วยความรู้สึกที่เห็นใจและเคารพจิตใจของอีกฝ่ายแต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับจากคาเนกิคุงเลยมีแต่เสียงหายใจหอบถี่กับใบหน้าที่แดงก่ำสายตาที่หวานเยิ้มชวนเลี่ยน
"อื้อ..อืม..อา~"
เสียงครางของร่างเล็กที่กำลังเก็บกดความต้องการเอาไว้ทั้งๆที่บางอย่างของเขานั้นนูนออกมามากถึงขนาดนั้นแล้วแถมยังชื้นแฉะถึงไม่สัมผัสก็รู้ได้ว่าบางอย่างสีขุ่นขาวได้ซึมเปียกแฉะออกนอกกางเกงแล้ว
ผมหาเก้าอี้มานั่งข้างๆเตียงเขาและนั่งหันหลังให้เขาการที่ผมได้เห็นคาเนกิคุงกับลังอ่อนระทวยและทุกอากัปกิริยาที่ต้องการที่จะปลดปล่อยก็ทำให้ผมแทบจะบ้าคลั่งไปกับมันความต้องการตัณหาพุ่งพรวดเข้ามาเหมือนพายุที่ซัดเข้ามากระทบชายฝั่งถึงแม้ว่าอยากจะทำเรื่องอย่างว่ากับเขาขนาดไหนแต่ผมก็ต้องอดทนไว้พลางบอกในใจตัวเองว่า
จะไม่ทำและไม่คิดอะไรที่ไม่บริสุทธิุ์ใจกับคาเนกิคุงเด็ดขาด
บรรยากาศภายในห้องเงียบเชียบแอร์เย็นฉ่ำเสียงติ๊กต่อกของนาฬีกาเดินไปเรื่อยๆนาฬีกาบนผนังบอกเวลา

00 : 00 น.

บรรยากาศที่เงียบเหงาและหว้าเหว่ผมได้ขอร้องในใจให้เช้าเร็วๆเพราะมันจะเป็นการดีซะกว่าที่ผมจะไม่ต้องอยู่ที่นี่





"ทสึ..กิ.ยามะ.ซัง...ช..ผม"
คำพูดที่ขาดช่วงเหมือนแผ่นซีดีสะดุดเล็ดลอดออกมา...
  ผมหันมามองเขา


'พรึด'

'กึด'

"อุ๊บ..!!!!????"

ผมเบิกตาโพล้งออกมาคาเนกิคุงกำลังจูบผมความอดทนที่อดกลั้นเอาไว้ได้แตกสลายและพังทลายลงในที่สุด
ผมลงมือจัดการปลดเสื้อผ้าอาภรณ์ของตัวเองและร่างเล็กออกพร้อมกับใบหน้าที่เขาซุกไซร้เล็มเลียที่ซอกคอก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมา

"งั้นผมไม่เกรงใจล่ะนะครับ..คาเนกิคุง"

ผมพูดพร้องกับจูบเขาอีกครั้งพร้อมกับสอดลิ้นเข้าไปควานหากลิ่นเลือดและความหวานในปากของอีกฝ่าย






ใช่แล้วในเมื่ออาหารอันโอชะที่หอมหวานแสนอร่อยมาเสิร์ฟตรงหน้าแล้วจะรออะไรอีกอยู่ล่ะ

 




"ยิ่งเก็บเอาไว้นานเท่าก็จะยิ่งอร่อย"










THE   END








//  ฟิคเรื่องนี้แอบจิตเล็กแหะ 


                                    ด้วยรักปาท่องโก๋

                                          By Yuhey


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Tokyo Ghoul Fiction yaoi tsukiyama x kaneki [สุนัขกระหายเนื้อ]

[KNB YAOI] >>Fiction hiyoshi x hyuga >> ใต้กรอบแว่น