[KNB YAOI] >>Fiction hiyoshi x hyuga >> ใต้กรอบแว่น
Fiction YAOI
Kuroko no basuke
Hiyoshi X Hyuga [ Seirin ]
NC-15
By Yuhey
ใต้กรอบแว่น..
ในสนามเขาจะเป็นหัวใจหลักและพยายามทุ่มเทเต็มที่กับการแข่งเสมอ
ตรงข้าม
กลับตอนปกติจะดูเป็นคนซื่อๆนิสัยแปลกๆเหมือนเด็กที่โตแค่ตัวแต่สมองไม่ไปทำตัวป้ำๆเป๋อๆ
แต่..
ก็ทำให้ใครหลายคนพลอยรู้สึกอบอุ่นเมื่อได้อยู่ไกล้เขาคนนี้ 'คิโยชิ เทปเป' ด้วยรูปร่างที่สูงใหญ่ 193 ซม.ที่เป็นถึงราชาไร้มงกฏ อดีตฉายา หัวใจเหล็ก ที่มีฝ่ามือขนาดใหญ่สามารถจัดลูกบาสได้มือเดียวได้สบาย
"คิโยชินายมาทำอะไรที่นี่"
เสียงทักทายที่ไม่น่าจะเป็นการทักทายเสียแต่ไม่พอใจต่อผู้มาเยือนก็เท่านั้นสร้างความตะคิดตะขวางตาสีหน้าบอกบุญไม่รับของเด็กหนุ่มผมสั้นสีดำกับแว่นทรงรีกรอบโลหะบางๆสวมใส่อยู่
"ก็มาหานายไง"
คนที่อยู่ตรงหน้าพร้อมกับช่อดอกไม้ที่ถือมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสตรงข้ามกับคนที่นั่งอยู่บนเตียงคนป่วยที่โรงพยาบาลในชุดคนไข้ทำหน้าถอดสีและทำเหมือนไม่เต็มใจทีจะต้อนรับแขก
"ใครเขาใช้นายมาเยี่ยมฉันไม่ทราบ"
เด้กหนุ่มสวมแว่นที่บริเวณหน้าผากถูกผ้าก็อตพันแผลเอาไว้รอบศีรษะพูดด้วยความไม่พอใจที่แสดงออกมาอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ไม่ทำให้คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเสียความรู้สึกเลยสักนิด
ฮิโยชิทำสีหน้าอมยิ้มโดยที่ไม่สนใจว่าคนตรงหน้าจะพูดอะไร
"ก็นะ..เห็นว่านายบาดเจ็บจาการตกบนไดทุกคนเลยเป็นห่วงนาย"
ใบหน้าที่เปื้อนยิ้มแต่จริงๆกับลนลานพยามคิดสรรหาข้ออ้างในการมาเยี่ยมไข้คนตรงหน้า
แต่มาไม้นี้ก็ไม่อาจที่จะหลอกเขาได้หรอก ชายหนุ่มร่างสูงแต่เตี้ยกว่าฮิโยชิ ถึง 15 ซม. กระตุกแว่นตาให้เข้ากับที่ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาบอกบุญไม่รับ
"แล้ไงต่อถ้ามีเหตุผลแค่นี้ก็รีบกลับไปซะมันเป็นการรบกวนฉันๆจะนอน"
"อะ.."
"แล้วก็อีกอย่างนะบอกทุกคนด้วยว่าฉันสบายดีไม่ต้องห่วงเดี๋ยววันพรุ่งนี้ฉันก็กลับแล้ว"
ฮิวงะร่ายคำพูดรัวยาวเป็นชุดโดยไม่เปิดโอกาสให้คนที่อุตส่าห์เอาดอกไม่มาเยี่ยมที่เอาใส่แจกันเอาไว้ให้ได้พูดอะไรคำพูดที่เป็นเชิงขับไล่ไสส่งให้ออกไป
รอยยิ้มที่ปรากฎอยู่บนใบหน้าเปลี่ยนสีในทันทีจากใบหน้าที่สดใสกับมัวหมองลงก่อนที่จะทำตามอย่างว่าง่ายโดยในระหวางทีกำลังจะปิดประตูฮิโยชิหันมายิ้มให้เขา
"อ่า..เข้าใจแล้ว"
แล้วประตูก็ถูกปิดไป..
ภายในห้องผู้ป่วยโรงพยาบาลห้องพิเศษสำหรับคนเดียวเนื่องจากห้องผู้ป่วยธรรมดา(รวม)เต็มแล้ว ตึกสูงสีขาว5ชั้นห้องผู้ป่วยที่เงียบเชียบแต่ก็ยังมีเสียงฝีเท้าและล้อรถเข็นที่เคลื่อนไปมาคลออยู่แสงของดวงอาทิตย์อัสดงยามเย็นสีส้มแดงร้อนแรงเหมือนกำลังจะแผดเผาผู้คนที่จ้องมองตลอดเวลาแสงของมันทอดลงมายังกระจกบานใสๆของชั้น3 ห้องผู้ป่วย 362 พร้อมกับป้ายชื่อ 'ฮิวงะ จุนเปย์'
ในห้องที่ไม่มีใคร มีเพียงแต่เด็กหนุ่มที่นั่งอยู่บนเตียงในชุดผู้ป่วยสีฟ้าอ่อนๆ ใบหน้าคมหันเหม่อมองออกไปที่หน้าต่างดวงอาทิตย์ดวงกลมโตสีแดงที่กำลังลับขอบฟ้าอย่างช้าๆ แสงสีแสดตกกระทบใบหน้าที่จัดว่าดีของเขาสีผิวเหลืองกลายเป็นสีส้มทันทีที่ส่องกับแสงอาทิตย์สีแดงขนาดใหญ่
แล้วเสียงพึมพำอันแผ่วเล็ดลอดออกจากปากของเขา ใบหน้าที่ปกติกลับดูหมองลงเล็กน้อย
"ทำไมนายถึงใจดีขนาดนี้กันล่ะ"
มือขวาถอดแว่นตาวางไว้ที่หัวเตียงก่อนที่จะเอนตัวนอนลงแล้วคลุมผ้าห่มสีขาวคลุมโป่งไว้เหลืองเพียงแค่ใบหน้าช่วงบนลอดออกมาเล็กน้อย
ใบหน้าที่กำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่างในใจของเขาสายตาที่กำลังกระวนกระวายสบสนว้าวุ่นอยู่คนเดียว เพียงแค่ไม่ต้องเอ่ยชือหรือนึกภาพสาเหตุต้นตอของตัวปัญหาที่ทำให้เขาบาดเจ็บถึงขนาดต้องนอนโรงพยาบาลไป3วันเต็มๆเลย
"ก็ใครกันเล่าที่ทำให้ฉันเป็นแบบนี้กันล่ะ"
พลันนึกถึงร่างสูงใบหน้าก็ขึ้นสีปนความน้อยใจระคนกันไป
ภาพเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ทั้งหมดก็เลือนรางขึ้นมาก่อนที่จะชัดเจนยิ่งขึ้น
ในตึกอาคารเรียนที่ใหม่เอี่ยมดูสะอาดสะอ้านของโรงเรียนเซย์ริน เพราะว่าเป็นโรงเรียนที่เพิ่งก่อตั้งใหม่ใน 2 ปีที่แล้ว
ในเวลาหลังเลิกเรียนในตอนเย็นที่ถึงยามเหล่าเด็กนักเรียนม.ปลายในชุดเครื่องแบบสีดำกับผู้หญิงที่ใส่ชุดปกเสื้อกะลาสีโบว์สีส้มกับเสื้อนักเรียนสีน้ำเงินกระโปรงสีขาว
"เฮ้..คิโยชินายรอฉันหน่อยสิวะ.."
คนร่างสูงสวมแว่นตาพูดเสียงขุ่นด้วยอาการเซ็งเป็นที่สุด
" เอ..แต่ฉันก็เดินให้ช้าที่สุดแล้วนะฮิวงะ"
คนที่เดินอยู่ตรงหน้าและมีความสูงกับช่วงไหล่ที่กว้างกว่าพูดพลางยิ้มระรื่น
แต่คนที่อยู่ด้านหลังกับไม่เลยสักนิด
"ก็มันช่วยไม่ได้นี่นายลองมาแบกกองเอกสารการทำรายงานของทุกคนในชั้นเรียนดูเด่ะ"
ฮิวงะบ่นโดยที่ มือทั้งสองข้างนั้นเกร็งกับการเดินที่ไม่ค่อยสมดุลกันทำให้เขาแทบเสียหลักทุกครั้ง
หมอนี่ไม่คิดจะช่วยกันเลยรึไงฟระ!!!
ฮิวงะบ่นอุบอิบเอาไว้อยู่ในใจเงียบๆและในขณะเดียวกันเขาก็รู้สึกเจ็บที่วาดความหวังขอให้คนตรงหน้าช่วย
ในห้องพักครูที่โต๊ะประจำตำแหน่งของครูแต่ละคนจะมีที่กั้นเอาไว้ดูเผินๆเหมือนออฟฟิศไม่มีผิดในห้องที่เงียบและไม่มีผู้คนอยู่เลยโดยปกติในช่วงพักกลางวันและช่วงเช้าก่อนที่คาบเรียนจะเริ่มอาจารย์หลายๆคนมักจะมาพูดคุยจับกลุ่มพูดถึงเด็กในห้องบ้างช่วงไปเที่ยววันหยุดบ้างคุยสัพเพเทระหะ ไป ซึ่งแตกต่างจากช่วงเย็นที่เวลาในนาฬีกาบอกเวลา
17 : 03 น.
ฮิวงะรีบวางชีสรายงานของทุกคนในชั้นปี2 ลงที่โต๊ะอาจารย์ทันที ด้วยความหนักของกระดาษหนาที่ขนาดเขาถือเดินไปแทบจะมองไม่เห็นทางเลยด้วยซ้ำทำให้เขาแทบเซถลาลุ้มลงไปด้วยซ้ำแต่ก็ยังโชคดีที่ร่างสูงประคองเอาไว้
"เฮ้อ..เล่นซะข้อมือเคล็ดเลยแหะ" ฮิวงะถอนหายเหมือนกับยกภูเขาออกจากอกพร้อมจับและลูบข้อมือตัวเองป้อยๆ
"ฮะฮะฮะ นายนี่บอบบางจังนะ" ร่างสูงใหญ่พูดแล้วหัวเราะขบขันเหมือนเห็นเป็นเรื่องตลก
แต่คนที่เดินอยู่ข้างๆนี่สิกลับไม่ตลกเลยสักนิดแถมเป็นการกระตุกต่อมโมโหของเขาเสียออกเลยด้วยซ้ำฝ่ามือแกร่งตบเข้าที่หลังกว้างของคนตัวใหญ่ดังป้าบถึงจะไม่สะเทือนและไม่เซถลาล้มก็ตามแต่แรงเหวี่ยงที่น้ำหนักที่รวมไว้ที่ฝ่ามือตกกระทบแนบกลางหลังก็ทำเขาสะดุ้งโหยงเพราะแสบที่แผ่นหลัง
แล้วฮิวงะก็เดินไปที่ล็อกเกอร์ที่ใช้วางรองเท้าเดินบนตึกเขาเปลี่ยนรองเท้า
"เฮ้..คิโยชิพรุ่งนี้มีนัดซ้อมตอนเช้านายห้ามมาสายซะล่ะเจ้างั่ง" ฮิวงะพูดในขณะที่เขาก้มจัดการใส่รองเท้าของตัวเองอยู่
"อืมเข้าใจแล้ว" คิโยชิตอบพร้อมรอยยิ้มกลับมาอีกเช่นเคย ขายาวก้าวออกมาที่หน้าประตูก่อนแล้วหยุดรอร่างสูงโปร่งสวมแว่นตาที่ใส่รองเท้าอยู่
" เออนี่ฮิโยชิ เดียวแนไปเอากระเป๋าก่อนนะพอดีฉันลืมเอาไว้ในห้องน่ะ"
"อืมเดี๋ยวฉันไปด้วย"
ฮิโยชิพูดด้วยสีหน้าใบหน้ายิ้มแย้มสดใสเหมือนเคยทุกครั้งแล้วตอนกลับขึ้นอาคารเรียนตามร่างผอมสูงโปร่งขึ้นไป
ถึงแม้วาภายนอกของเด็กหนุ่มอัธยาศัยดี ที่เป็นมิตร โอบอ้อมอารี มีเมตตาแล้ว แต่หากมองลึกลงไปแล้ว เขาคิดอะไรกันอยู่แน่ อีกด้านแห่งความซื่อตรง มันยากที่จะรู้ได้ บุคคลิกที่แปลกประหลาด ทำตัวบ้าๆบอ
แววตาที่ฉายความนัยแอบแฝง ความต้องการที่หยั่งรากฝังลึกๆอยู่ในใจ
" นี่..ฮิวงะ"
เสียงเย็นที่ต่างไปจากทุกทีทำให้อีกฝ่ายที่กำลังจะเดินลงบันไดหยุดชะงัก
" อะไรนายเป็นอะไรไปฮิโยชิดูเหมือนนายไม่ใช่นายคนเดิมเลยนี่"
ฮิวงะถามด้วยความสงสัยแต่ก็ไม่คิดอะไรมากก่อนจะก้าวเท้าเดินลงบันได
แต่...
มือหนาใหญ่ๆกับฉุดมือข้างใดข้างหนึ่งก่อนที่จะเหวี่ยงน้ำหนักกระแทกร่างโปร่งไปที่กำแพง
'ปึก!'
แรงกระแทกที่กระทบกับฝาหนังตรงหน้าบันได ทำให้ร่างสูงโปร่งสมสวนถึงกับครางอดโอยออกมาด้วยความเจ็บปวด
"ฮิโยชินายทำแบบนี่ทะ--อุ๊บ"
ยังไม่ทันที่จะได้ตั้งตัวและคำพูดถูกบดบังด้วยรีมฝีปากหนารุกล้ำเข้ามาก่อนที่จะสอดลิ้นเข้ามาเพื่อลิ้มรสหารสชาติในโพรงปากอย่างซุกซน
เขาทำซ้ำไปซ้ำมาจนร่างที่กำลังถูกจนมุมอิงกำแพงอ่อนยวบเยียบขาอ่อนแทบประคองตัวเองไม่อยู่แต่ดีที่ร่างสูงใหญ่ประคองโดยการกอดเขาไว้แน่น
ฮิโยชิกระทำการจูบเขาซ้ำไปซ้ำมาราวกับโหยรสจูบหามานานแสนนานก่อนจะถอนจูบออกมาที่ทิ้งร่อยรอยหยาดเยิ้มสีใสเอาไว้ที่มุมปากของร่างโปร่งที่แว่นตานั้นเอียงและขาแว่นข้างใดข้างหนึ่งอยู่ในตำแหน่งบริเวณใต้ติ่งหู ลมหายใจหอบถี่ที่ราวกับไปวิ่งอ้อมสนามมา10รอบมาหมาดๆกับใบหน้าที่แดงก่ำที่ดูเหมือนกับคนที่เป็นไข้ตัวร้อนสูง
ฮิโยชิไม่รีรอช้าให้เขาได้มีโอกาสได้พูดอะไรออกมาก็เริ่มโดยที่ริมฝีปากหนานั้นขบกัดเบาๆที่ติ่งหูโลมเลีย
สร้างความสยิวเสียวซ่านขึ้นนับทวีคูณให้กับฮิวงะ อารมณ์และความรู้สึกถูกครอบคลุมไปด้วยความต้องการที่ถูกปลุกขึ้นอย่างสมบูรณ์
ร่างกายสั่นสะท้านราวกับมีกระแสไฟฟ้าแล่นมาทั่วร่างก่อนที่จะรู้สึกตัวริมฝีปากนั้งก็เข้ามาซุกไซร้อยูบริเวณซอกคอเสียแล้วรอยประทับรอยจ้ำสีม่วงคล้ำที่คิโยชิสร้างขึ้น
มือหนาแกร่งสอดเข้าไปในสาบเสื้อลูบไล้แผ่นหลังบาง ริมฝีปากที่เลื่อนลงมาถึงไหปลาหร้า
ความรู้สึกที่กำลังเคลิบเคลิ้มระเริงไปด้วยความปราถนาของอีกฝ่ายมลายหายไปก่อนจะกลับมามีสติอีกครั้งร่างทั้งร่างแข็งทื่อเมือมือซุกซนของฮิโยชิกำลังจะสอดเข้าไปในกางเกงทางด้านหลังของเขาพอดี
เมื่อเห็นเป็นเช่นนี้ฮิวงะไม่รอช้าที่จะผลักร่างคนตรงหน้าออกก่อนจะเร่งฝีเท้าวิ่งมือใหญ่กำลังจะฉุดแขนแต่คราวนี้ไม่ได้ผล
ฮิวงะเห็นว่าด้วยเองหลุดออกจากเงื้อมมือของใครบางคนที่คิดตะทำเรื่องอย่างว่าแล้วก็โล่งอกแต่ว่าเหตูการณ์ไม่คาดคิดจึงเกิด
ฮิวงะเสียหลักตกบันไดเนื่องจากก้าวลงผิดขั้น
" ฮิวงะ!!!!!~"
ภาพในเหตุการ์ณที่ก่อนที่เขาจะมาอยู่ในสภาพนี้ เลือนหายไปแล้วกลับมาสู่ช่างปัจจุบัน
เขาแหงนหน้ามองนาฬีกาที่ติดตรงมุมห้องผู้ป่วยของเขา
ในนาฬีกาบอกเวลา
20 : 59 น.
เมื่อเห็นเวลาอันที่ควรแก่การจะพักผ่อนเขาถอดแว่นตาที่เป็นส่วนหนึ่งของรูปลักษณ์ออกวางไว้ที่หัวเตียงก่อนจะล้มตัวนอน แล้วห่มผ้า
เสียงฝีเท้าที่ก้าวออกมาจากลีฟต์พร้อมกับถุงพลาสติกสีขาวกับกล่องสี่เหลี่ยมจัตุรัสสีส้มพร้อมตะเกียบสีขาวที่วางอยู่ข้างบน
ร่างสูงใหญ่ที่ผิดจากนักเรียนม.ปลายธรรมดาเปิดประตูเข้ามา
ภายในห้องเงียบกริบมีเพียงแค่เสียงหายใจเข้าออกอย่างสม่ำเสมอของร่างโปร่งที่นอนอยู่บนเตียง
"ดูเหมือนจะหลับแล้วสินะ" เขาพึมพำเบาก่อนจะโน้มหน้าเข้ามาจุมพิตปากของคนที่กำลังหลับไหล
"อ...อืม."
ความรู่สึกเหมือนมีอะไรอุ่นๆอยู่ที่บริเวณริมฝีปากของฮิวงะเขาสะลืมสะลือตื่นขึ้นมาทันที
"เฮ้ยยยยยยย นายมาทำไมอีกล่ะเนี่ยทำไมไม่กับไป !!!!"
ฮิวงะสะดุ้งโหยงกับการปรากฎตัวของคนตรงหน้า
"ก็เอากับข้าวมาให้นายไงตอนเย็นนายไม่ค่อยได้กินข้าวใช่ไหมล่ะ"
ฮิโยชิยิ้มแป้นแล้นออกนอกหน้าแต่ในใจกับกระวนกระวายสีว่าจะโดนบาทาเข้าให้รึเปล่า
แต่ก็ผิดคาดเมื่ออีกฝ่ายรับถุงพลาสติกที่ห่อข้าวกล่องฝีมือทำเองของมิโตเบะ มา อย่าว่าง่าย
ก่อนจะกินอย่างเอร็ดอร่อย
"นายมาหาฉันทำไมอีกไม่ทราบฟระ" ใบหน้าที่แสดงออกถึงความรำคาญอีกฝ่ายออกมาเต็มทน
แต่ไม่เป็นผลคิโยชิทำทีไม่สนใจก่อนจะเปลี่ยนเรื่องเพื่อเบี่ยงเบนคำถามของอีกฝ่าย
"อ๊ะ!นี่ฮิวงะข้าวติดแหน่ะ " แววตาอันใสซื่อ มุมปากยุกยิ้มแย้มขึ้นมาก่อนมือหนาจะเอื้อมหยิบเม็ดข้าวที่ติดมุมปากของอีกฝ่าย
ใบหน้าของฮิวงะขึ้นสีระรือทันที ก่อนจะเบือนหน้าไปทางอื่น
แต่ก็ถือมือหนาเชยคากับมาแล้วเอาหน้าเข้ามาไกล้
ปฏิกิริโต้ตอบกลับแบบอัตโนมัติทันที่กำปั้นทุบผลักตบตีไปที่แผงอกกว้างทันทีแต่ก็ไม่อาจทำอะไรร่างสูงใหญ่เอาไว้ได้
ฮิโยชิโน้มหน้าเข้ามาจูบทันที
และเป็นจังหวะเดียวที่ประตูห้องผู้ป่วยเปิดออก
ร่างเล็กผมสีท้องฟ้าในชุดนักเรียนพร้อมกับกระเช้าผลไม้
ร่างกายของชายหนุ่มทั้งสองแข็งทื่อเหมือนหิน..เมื่อเห็นร่างเล็กเดินเข้ามาแววางกระเช้าผลไม้ไกล้ฮิวงะ
ก่อนจะรีบสาวเท้าออกไปอย่างรวดเร็ว
" เอ่อ..งั้นผมไปก่อนนะครับ ขอโทษที่มาขัดจังหวะที่กำลังจู๋จี๋กันนะครับ"
ประตูถูกปิดลง
"แหะ แหะ แหะ" ฮิโยชิยิ้มแห้งๆ ออกมา ก่อนจะหันเหลือบมองคนตรงหน้าอย่างลนลาน
และพยายามสรรหาวิธีแก้ตัวสารพัดแต่ก็คิดไม่ออก
" พอใบหน้าใต้กรอบแว่นของนายดูดี กว่าตอนใส่แว่นกว่าอีกนะฮิวงะ "
คำแก้ตัวที่เหมือนคนสิ้นคิดและไม่เข้าท่าเป็นตํวจุดไฟแห่งความโกรธพร้องรังสีอำมหิตที่แผ่ออกมาทั่วบริเวณ
เสียงเย็นที่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ขั้วโลกเหนือดังขึ้นมา
"ฮิโยชิ....~~~~!!!!!"
" อะ..เอ่อฮิวงะใจเย็นๆฟังก่อนะเอ่อ...แหะๆๆๆๆ"
ด้วยรักปาท่องโก๋
By Yuhey
Kuroko no basuke
Hiyoshi X Hyuga [ Seirin ]
NC-15
By Yuhey
ใต้กรอบแว่น..
ในสนามเขาจะเป็นหัวใจหลักและพยายามทุ่มเทเต็มที่กับการแข่งเสมอ
ตรงข้าม
กลับตอนปกติจะดูเป็นคนซื่อๆนิสัยแปลกๆเหมือนเด็กที่โตแค่ตัวแต่สมองไม่ไปทำตัวป้ำๆเป๋อๆ
แต่..
ก็ทำให้ใครหลายคนพลอยรู้สึกอบอุ่นเมื่อได้อยู่ไกล้เขาคนนี้ 'คิโยชิ เทปเป' ด้วยรูปร่างที่สูงใหญ่ 193 ซม.ที่เป็นถึงราชาไร้มงกฏ อดีตฉายา หัวใจเหล็ก ที่มีฝ่ามือขนาดใหญ่สามารถจัดลูกบาสได้มือเดียวได้สบาย
"คิโยชินายมาทำอะไรที่นี่"
เสียงทักทายที่ไม่น่าจะเป็นการทักทายเสียแต่ไม่พอใจต่อผู้มาเยือนก็เท่านั้นสร้างความตะคิดตะขวางตาสีหน้าบอกบุญไม่รับของเด็กหนุ่มผมสั้นสีดำกับแว่นทรงรีกรอบโลหะบางๆสวมใส่อยู่
"ก็มาหานายไง"
คนที่อยู่ตรงหน้าพร้อมกับช่อดอกไม้ที่ถือมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสตรงข้ามกับคนที่นั่งอยู่บนเตียงคนป่วยที่โรงพยาบาลในชุดคนไข้ทำหน้าถอดสีและทำเหมือนไม่เต็มใจทีจะต้อนรับแขก
"ใครเขาใช้นายมาเยี่ยมฉันไม่ทราบ"
เด้กหนุ่มสวมแว่นที่บริเวณหน้าผากถูกผ้าก็อตพันแผลเอาไว้รอบศีรษะพูดด้วยความไม่พอใจที่แสดงออกมาอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ไม่ทำให้คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเสียความรู้สึกเลยสักนิด
ฮิโยชิทำสีหน้าอมยิ้มโดยที่ไม่สนใจว่าคนตรงหน้าจะพูดอะไร
"ก็นะ..เห็นว่านายบาดเจ็บจาการตกบนไดทุกคนเลยเป็นห่วงนาย"
ใบหน้าที่เปื้อนยิ้มแต่จริงๆกับลนลานพยามคิดสรรหาข้ออ้างในการมาเยี่ยมไข้คนตรงหน้า
แต่มาไม้นี้ก็ไม่อาจที่จะหลอกเขาได้หรอก ชายหนุ่มร่างสูงแต่เตี้ยกว่าฮิโยชิ ถึง 15 ซม. กระตุกแว่นตาให้เข้ากับที่ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาบอกบุญไม่รับ
"แล้ไงต่อถ้ามีเหตุผลแค่นี้ก็รีบกลับไปซะมันเป็นการรบกวนฉันๆจะนอน"
"อะ.."
"แล้วก็อีกอย่างนะบอกทุกคนด้วยว่าฉันสบายดีไม่ต้องห่วงเดี๋ยววันพรุ่งนี้ฉันก็กลับแล้ว"
ฮิวงะร่ายคำพูดรัวยาวเป็นชุดโดยไม่เปิดโอกาสให้คนที่อุตส่าห์เอาดอกไม่มาเยี่ยมที่เอาใส่แจกันเอาไว้ให้ได้พูดอะไรคำพูดที่เป็นเชิงขับไล่ไสส่งให้ออกไป
รอยยิ้มที่ปรากฎอยู่บนใบหน้าเปลี่ยนสีในทันทีจากใบหน้าที่สดใสกับมัวหมองลงก่อนที่จะทำตามอย่างว่าง่ายโดยในระหวางทีกำลังจะปิดประตูฮิโยชิหันมายิ้มให้เขา
"อ่า..เข้าใจแล้ว"
แล้วประตูก็ถูกปิดไป..
ภายในห้องผู้ป่วยโรงพยาบาลห้องพิเศษสำหรับคนเดียวเนื่องจากห้องผู้ป่วยธรรมดา(รวม)เต็มแล้ว ตึกสูงสีขาว5ชั้นห้องผู้ป่วยที่เงียบเชียบแต่ก็ยังมีเสียงฝีเท้าและล้อรถเข็นที่เคลื่อนไปมาคลออยู่แสงของดวงอาทิตย์อัสดงยามเย็นสีส้มแดงร้อนแรงเหมือนกำลังจะแผดเผาผู้คนที่จ้องมองตลอดเวลาแสงของมันทอดลงมายังกระจกบานใสๆของชั้น3 ห้องผู้ป่วย 362 พร้อมกับป้ายชื่อ 'ฮิวงะ จุนเปย์'
ในห้องที่ไม่มีใคร มีเพียงแต่เด็กหนุ่มที่นั่งอยู่บนเตียงในชุดผู้ป่วยสีฟ้าอ่อนๆ ใบหน้าคมหันเหม่อมองออกไปที่หน้าต่างดวงอาทิตย์ดวงกลมโตสีแดงที่กำลังลับขอบฟ้าอย่างช้าๆ แสงสีแสดตกกระทบใบหน้าที่จัดว่าดีของเขาสีผิวเหลืองกลายเป็นสีส้มทันทีที่ส่องกับแสงอาทิตย์สีแดงขนาดใหญ่
แล้วเสียงพึมพำอันแผ่วเล็ดลอดออกจากปากของเขา ใบหน้าที่ปกติกลับดูหมองลงเล็กน้อย
"ทำไมนายถึงใจดีขนาดนี้กันล่ะ"
มือขวาถอดแว่นตาวางไว้ที่หัวเตียงก่อนที่จะเอนตัวนอนลงแล้วคลุมผ้าห่มสีขาวคลุมโป่งไว้เหลืองเพียงแค่ใบหน้าช่วงบนลอดออกมาเล็กน้อย
ใบหน้าที่กำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่างในใจของเขาสายตาที่กำลังกระวนกระวายสบสนว้าวุ่นอยู่คนเดียว เพียงแค่ไม่ต้องเอ่ยชือหรือนึกภาพสาเหตุต้นตอของตัวปัญหาที่ทำให้เขาบาดเจ็บถึงขนาดต้องนอนโรงพยาบาลไป3วันเต็มๆเลย
"ก็ใครกันเล่าที่ทำให้ฉันเป็นแบบนี้กันล่ะ"
พลันนึกถึงร่างสูงใบหน้าก็ขึ้นสีปนความน้อยใจระคนกันไป
ภาพเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ทั้งหมดก็เลือนรางขึ้นมาก่อนที่จะชัดเจนยิ่งขึ้น
ในตึกอาคารเรียนที่ใหม่เอี่ยมดูสะอาดสะอ้านของโรงเรียนเซย์ริน เพราะว่าเป็นโรงเรียนที่เพิ่งก่อตั้งใหม่ใน 2 ปีที่แล้ว
ในเวลาหลังเลิกเรียนในตอนเย็นที่ถึงยามเหล่าเด็กนักเรียนม.ปลายในชุดเครื่องแบบสีดำกับผู้หญิงที่ใส่ชุดปกเสื้อกะลาสีโบว์สีส้มกับเสื้อนักเรียนสีน้ำเงินกระโปรงสีขาว
"เฮ้..คิโยชินายรอฉันหน่อยสิวะ.."
คนร่างสูงสวมแว่นตาพูดเสียงขุ่นด้วยอาการเซ็งเป็นที่สุด
" เอ..แต่ฉันก็เดินให้ช้าที่สุดแล้วนะฮิวงะ"
คนที่เดินอยู่ตรงหน้าและมีความสูงกับช่วงไหล่ที่กว้างกว่าพูดพลางยิ้มระรื่น
แต่คนที่อยู่ด้านหลังกับไม่เลยสักนิด
"ก็มันช่วยไม่ได้นี่นายลองมาแบกกองเอกสารการทำรายงานของทุกคนในชั้นเรียนดูเด่ะ"
ฮิวงะบ่นโดยที่ มือทั้งสองข้างนั้นเกร็งกับการเดินที่ไม่ค่อยสมดุลกันทำให้เขาแทบเสียหลักทุกครั้ง
หมอนี่ไม่คิดจะช่วยกันเลยรึไงฟระ!!!
ฮิวงะบ่นอุบอิบเอาไว้อยู่ในใจเงียบๆและในขณะเดียวกันเขาก็รู้สึกเจ็บที่วาดความหวังขอให้คนตรงหน้าช่วย
ในห้องพักครูที่โต๊ะประจำตำแหน่งของครูแต่ละคนจะมีที่กั้นเอาไว้ดูเผินๆเหมือนออฟฟิศไม่มีผิดในห้องที่เงียบและไม่มีผู้คนอยู่เลยโดยปกติในช่วงพักกลางวันและช่วงเช้าก่อนที่คาบเรียนจะเริ่มอาจารย์หลายๆคนมักจะมาพูดคุยจับกลุ่มพูดถึงเด็กในห้องบ้างช่วงไปเที่ยววันหยุดบ้างคุยสัพเพเทระหะ ไป ซึ่งแตกต่างจากช่วงเย็นที่เวลาในนาฬีกาบอกเวลา
17 : 03 น.
ฮิวงะรีบวางชีสรายงานของทุกคนในชั้นปี2 ลงที่โต๊ะอาจารย์ทันที ด้วยความหนักของกระดาษหนาที่ขนาดเขาถือเดินไปแทบจะมองไม่เห็นทางเลยด้วยซ้ำทำให้เขาแทบเซถลาลุ้มลงไปด้วยซ้ำแต่ก็ยังโชคดีที่ร่างสูงประคองเอาไว้
"เฮ้อ..เล่นซะข้อมือเคล็ดเลยแหะ" ฮิวงะถอนหายเหมือนกับยกภูเขาออกจากอกพร้อมจับและลูบข้อมือตัวเองป้อยๆ
"ฮะฮะฮะ นายนี่บอบบางจังนะ" ร่างสูงใหญ่พูดแล้วหัวเราะขบขันเหมือนเห็นเป็นเรื่องตลก
แต่คนที่เดินอยู่ข้างๆนี่สิกลับไม่ตลกเลยสักนิดแถมเป็นการกระตุกต่อมโมโหของเขาเสียออกเลยด้วยซ้ำฝ่ามือแกร่งตบเข้าที่หลังกว้างของคนตัวใหญ่ดังป้าบถึงจะไม่สะเทือนและไม่เซถลาล้มก็ตามแต่แรงเหวี่ยงที่น้ำหนักที่รวมไว้ที่ฝ่ามือตกกระทบแนบกลางหลังก็ทำเขาสะดุ้งโหยงเพราะแสบที่แผ่นหลัง
แล้วฮิวงะก็เดินไปที่ล็อกเกอร์ที่ใช้วางรองเท้าเดินบนตึกเขาเปลี่ยนรองเท้า
"เฮ้..คิโยชิพรุ่งนี้มีนัดซ้อมตอนเช้านายห้ามมาสายซะล่ะเจ้างั่ง" ฮิวงะพูดในขณะที่เขาก้มจัดการใส่รองเท้าของตัวเองอยู่
"อืมเข้าใจแล้ว" คิโยชิตอบพร้อมรอยยิ้มกลับมาอีกเช่นเคย ขายาวก้าวออกมาที่หน้าประตูก่อนแล้วหยุดรอร่างสูงโปร่งสวมแว่นตาที่ใส่รองเท้าอยู่
" เออนี่ฮิโยชิ เดียวแนไปเอากระเป๋าก่อนนะพอดีฉันลืมเอาไว้ในห้องน่ะ"
"อืมเดี๋ยวฉันไปด้วย"
ฮิโยชิพูดด้วยสีหน้าใบหน้ายิ้มแย้มสดใสเหมือนเคยทุกครั้งแล้วตอนกลับขึ้นอาคารเรียนตามร่างผอมสูงโปร่งขึ้นไป
ถึงแม้วาภายนอกของเด็กหนุ่มอัธยาศัยดี ที่เป็นมิตร โอบอ้อมอารี มีเมตตาแล้ว แต่หากมองลึกลงไปแล้ว เขาคิดอะไรกันอยู่แน่ อีกด้านแห่งความซื่อตรง มันยากที่จะรู้ได้ บุคคลิกที่แปลกประหลาด ทำตัวบ้าๆบอ
แววตาที่ฉายความนัยแอบแฝง ความต้องการที่หยั่งรากฝังลึกๆอยู่ในใจ
" นี่..ฮิวงะ"
เสียงเย็นที่ต่างไปจากทุกทีทำให้อีกฝ่ายที่กำลังจะเดินลงบันไดหยุดชะงัก
" อะไรนายเป็นอะไรไปฮิโยชิดูเหมือนนายไม่ใช่นายคนเดิมเลยนี่"
ฮิวงะถามด้วยความสงสัยแต่ก็ไม่คิดอะไรมากก่อนจะก้าวเท้าเดินลงบันได
แต่...
มือหนาใหญ่ๆกับฉุดมือข้างใดข้างหนึ่งก่อนที่จะเหวี่ยงน้ำหนักกระแทกร่างโปร่งไปที่กำแพง
'ปึก!'
แรงกระแทกที่กระทบกับฝาหนังตรงหน้าบันได ทำให้ร่างสูงโปร่งสมสวนถึงกับครางอดโอยออกมาด้วยความเจ็บปวด
"ฮิโยชินายทำแบบนี่ทะ--อุ๊บ"
ยังไม่ทันที่จะได้ตั้งตัวและคำพูดถูกบดบังด้วยรีมฝีปากหนารุกล้ำเข้ามาก่อนที่จะสอดลิ้นเข้ามาเพื่อลิ้มรสหารสชาติในโพรงปากอย่างซุกซน
เขาทำซ้ำไปซ้ำมาจนร่างที่กำลังถูกจนมุมอิงกำแพงอ่อนยวบเยียบขาอ่อนแทบประคองตัวเองไม่อยู่แต่ดีที่ร่างสูงใหญ่ประคองโดยการกอดเขาไว้แน่น
ฮิโยชิกระทำการจูบเขาซ้ำไปซ้ำมาราวกับโหยรสจูบหามานานแสนนานก่อนจะถอนจูบออกมาที่ทิ้งร่อยรอยหยาดเยิ้มสีใสเอาไว้ที่มุมปากของร่างโปร่งที่แว่นตานั้นเอียงและขาแว่นข้างใดข้างหนึ่งอยู่ในตำแหน่งบริเวณใต้ติ่งหู ลมหายใจหอบถี่ที่ราวกับไปวิ่งอ้อมสนามมา10รอบมาหมาดๆกับใบหน้าที่แดงก่ำที่ดูเหมือนกับคนที่เป็นไข้ตัวร้อนสูง
ฮิโยชิไม่รีรอช้าให้เขาได้มีโอกาสได้พูดอะไรออกมาก็เริ่มโดยที่ริมฝีปากหนานั้นขบกัดเบาๆที่ติ่งหูโลมเลีย
สร้างความสยิวเสียวซ่านขึ้นนับทวีคูณให้กับฮิวงะ อารมณ์และความรู้สึกถูกครอบคลุมไปด้วยความต้องการที่ถูกปลุกขึ้นอย่างสมบูรณ์
ร่างกายสั่นสะท้านราวกับมีกระแสไฟฟ้าแล่นมาทั่วร่างก่อนที่จะรู้สึกตัวริมฝีปากนั้งก็เข้ามาซุกไซร้อยูบริเวณซอกคอเสียแล้วรอยประทับรอยจ้ำสีม่วงคล้ำที่คิโยชิสร้างขึ้น
มือหนาแกร่งสอดเข้าไปในสาบเสื้อลูบไล้แผ่นหลังบาง ริมฝีปากที่เลื่อนลงมาถึงไหปลาหร้า
ความรู้สึกที่กำลังเคลิบเคลิ้มระเริงไปด้วยความปราถนาของอีกฝ่ายมลายหายไปก่อนจะกลับมามีสติอีกครั้งร่างทั้งร่างแข็งทื่อเมือมือซุกซนของฮิโยชิกำลังจะสอดเข้าไปในกางเกงทางด้านหลังของเขาพอดี
เมื่อเห็นเป็นเช่นนี้ฮิวงะไม่รอช้าที่จะผลักร่างคนตรงหน้าออกก่อนจะเร่งฝีเท้าวิ่งมือใหญ่กำลังจะฉุดแขนแต่คราวนี้ไม่ได้ผล
ฮิวงะเห็นว่าด้วยเองหลุดออกจากเงื้อมมือของใครบางคนที่คิดตะทำเรื่องอย่างว่าแล้วก็โล่งอกแต่ว่าเหตูการณ์ไม่คาดคิดจึงเกิด
ฮิวงะเสียหลักตกบันไดเนื่องจากก้าวลงผิดขั้น
" ฮิวงะ!!!!!~"
ภาพในเหตุการ์ณที่ก่อนที่เขาจะมาอยู่ในสภาพนี้ เลือนหายไปแล้วกลับมาสู่ช่างปัจจุบัน
เขาแหงนหน้ามองนาฬีกาที่ติดตรงมุมห้องผู้ป่วยของเขา
ในนาฬีกาบอกเวลา
20 : 59 น.
เมื่อเห็นเวลาอันที่ควรแก่การจะพักผ่อนเขาถอดแว่นตาที่เป็นส่วนหนึ่งของรูปลักษณ์ออกวางไว้ที่หัวเตียงก่อนจะล้มตัวนอน แล้วห่มผ้า
เสียงฝีเท้าที่ก้าวออกมาจากลีฟต์พร้อมกับถุงพลาสติกสีขาวกับกล่องสี่เหลี่ยมจัตุรัสสีส้มพร้อมตะเกียบสีขาวที่วางอยู่ข้างบน
ร่างสูงใหญ่ที่ผิดจากนักเรียนม.ปลายธรรมดาเปิดประตูเข้ามา
ภายในห้องเงียบกริบมีเพียงแค่เสียงหายใจเข้าออกอย่างสม่ำเสมอของร่างโปร่งที่นอนอยู่บนเตียง
"ดูเหมือนจะหลับแล้วสินะ" เขาพึมพำเบาก่อนจะโน้มหน้าเข้ามาจุมพิตปากของคนที่กำลังหลับไหล
"อ...อืม."
ความรู่สึกเหมือนมีอะไรอุ่นๆอยู่ที่บริเวณริมฝีปากของฮิวงะเขาสะลืมสะลือตื่นขึ้นมาทันที
"เฮ้ยยยยยยย นายมาทำไมอีกล่ะเนี่ยทำไมไม่กับไป !!!!"
ฮิวงะสะดุ้งโหยงกับการปรากฎตัวของคนตรงหน้า
"ก็เอากับข้าวมาให้นายไงตอนเย็นนายไม่ค่อยได้กินข้าวใช่ไหมล่ะ"
ฮิโยชิยิ้มแป้นแล้นออกนอกหน้าแต่ในใจกับกระวนกระวายสีว่าจะโดนบาทาเข้าให้รึเปล่า
แต่ก็ผิดคาดเมื่ออีกฝ่ายรับถุงพลาสติกที่ห่อข้าวกล่องฝีมือทำเองของมิโตเบะ มา อย่าว่าง่าย
ก่อนจะกินอย่างเอร็ดอร่อย
"นายมาหาฉันทำไมอีกไม่ทราบฟระ" ใบหน้าที่แสดงออกถึงความรำคาญอีกฝ่ายออกมาเต็มทน
แต่ไม่เป็นผลคิโยชิทำทีไม่สนใจก่อนจะเปลี่ยนเรื่องเพื่อเบี่ยงเบนคำถามของอีกฝ่าย
"อ๊ะ!นี่ฮิวงะข้าวติดแหน่ะ " แววตาอันใสซื่อ มุมปากยุกยิ้มแย้มขึ้นมาก่อนมือหนาจะเอื้อมหยิบเม็ดข้าวที่ติดมุมปากของอีกฝ่าย
ใบหน้าของฮิวงะขึ้นสีระรือทันที ก่อนจะเบือนหน้าไปทางอื่น
แต่ก็ถือมือหนาเชยคากับมาแล้วเอาหน้าเข้ามาไกล้
ปฏิกิริโต้ตอบกลับแบบอัตโนมัติทันที่กำปั้นทุบผลักตบตีไปที่แผงอกกว้างทันทีแต่ก็ไม่อาจทำอะไรร่างสูงใหญ่เอาไว้ได้
ฮิโยชิโน้มหน้าเข้ามาจูบทันที
และเป็นจังหวะเดียวที่ประตูห้องผู้ป่วยเปิดออก
ร่างเล็กผมสีท้องฟ้าในชุดนักเรียนพร้อมกับกระเช้าผลไม้
ร่างกายของชายหนุ่มทั้งสองแข็งทื่อเหมือนหิน..เมื่อเห็นร่างเล็กเดินเข้ามาแววางกระเช้าผลไม้ไกล้ฮิวงะ
ก่อนจะรีบสาวเท้าออกไปอย่างรวดเร็ว
" เอ่อ..งั้นผมไปก่อนนะครับ ขอโทษที่มาขัดจังหวะที่กำลังจู๋จี๋กันนะครับ"
ประตูถูกปิดลง
"แหะ แหะ แหะ" ฮิโยชิยิ้มแห้งๆ ออกมา ก่อนจะหันเหลือบมองคนตรงหน้าอย่างลนลาน
และพยายามสรรหาวิธีแก้ตัวสารพัดแต่ก็คิดไม่ออก
" พอใบหน้าใต้กรอบแว่นของนายดูดี กว่าตอนใส่แว่นกว่าอีกนะฮิวงะ "
คำแก้ตัวที่เหมือนคนสิ้นคิดและไม่เข้าท่าเป็นตํวจุดไฟแห่งความโกรธพร้องรังสีอำมหิตที่แผ่ออกมาทั่วบริเวณ
เสียงเย็นที่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ขั้วโลกเหนือดังขึ้นมา
"ฮิโยชิ....~~~~!!!!!"
" อะ..เอ่อฮิวงะใจเย็นๆฟังก่อนะเอ่อ...แหะๆๆๆๆ"
THE END
// ช่วงนี้ไม่ค่อยว่างเลยเนอะว่าไหม ขอโทษที่หายหัวไปนานเน้อ~~ป่านนี้จะลืมกันรึเปล่าเนี่ย orz
และก็ช่วงนี้จะอะฟเดทช้าหน่อยนะ อันนี้ก็ได้โปรดให้อภัยข้าน้อยด้วยละกันเน้อ~~
ด้วยรักปาท่องโก๋
By Yuhey
ความคิดเห็น