Akashi x Furihata >>>ราวกับลูกแมวน้อย
AKASHI X FURIHATA
NC- 13 by yuhey
[ราวลูกแมวน้อย]
สายฝนที่กระหน่ำลงมาอย่างไม่ขาดสายกับที่ผู้คนมากมายต่างพากันเดินบ้างบางคนก็วิ่งบ้านชลมุนอลม่านกันไปหมดเพราะกลัวเปียกฝนทั้งๆที่พยากรณ์อากาศเมื่อเช้านี้ยังบอกว่าอากาสแจ่มใสตลอดทั้งวัน
แต่ก็นั่นสินะ...
เพราะบางทีมันอาจจะไม่ตรงเสมอไปทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกใบนี้ล้วนไม่มีความเป็นแน่นอนตายตัวอยู่แล้ว เราจะเจ็บป่วยหรือเราจะตายก็ไม่สามารถรับรู้ลวงหน้าได้ถึงต่อให้คนที่มีเนตรราชันย์ อย่างผมก็ตามผมยืนรอรุ่นพี่มายุซุมิมานานเกือบหลายชั่วโมงแล้วที่สถานนีป้านรถเมล์ที่แสนจะคับคั่งอึกทึกวุ่นวายที่เต็มไปด้วยผู้คนมากหน้าหลายตาไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ต่างก็เดินสัญจรไปมาในภาพที่คุ้นตาและเห็นกันอยู่ทุกวันก่อนที่ผมจะกลับไปที่เกียวโตเพราะงานของคุณพ่อคำสั่งที่ถือเป็นคำขาดมันยังตราตรึงอยู่ในหัวสมองของผมจนถึงทุกวันนี้
อยากถามว่าผมเหนื่อยรึเปล่าที่จะต้องเจอกับกองเอกสารมากมายก่ายกองที่จะต้องตรวจเช็ก กับความคาดหวังและภาระอันมากมายที่จะต้องแบกรับ และแน่นอนคำตอบของมก็ต้องตอบว่า เหนื่อยเดิมที่ร่างกายของผมก็ต้องทำงานหนักตลอดเวลาอยู่แล้วถึงจะอยากหยุดพักแต่ด้วยนิสัยที่คุณพ่อของผมปลูกฝังมาตั้งแต่ครั้งยังเยาว์วัยก็เลยต้องทำทุกอย่างให้มันมากกว่าคนอื่นเป็นสิบเท่า แต่ก็ไม่รู้ว่าร่างกายของตัวเองจะสามารถทนต่อภาระทั้งหมดที่ผมแบกรับนั้นได้อีกนานเท่าไหร่
" เฮ้อ..."
ผมถอนหายใจออกมาอยางแผ่วเบาที่ปนอารมณ์แกมหงุดหงิดนิดหน่อยเพราะมายือรอใครซักคนใช้เวลาผ่านไปสามชั่วโมงแล้ว
ด้วยความที่ผมกำลังรีบบวกกับอาการหน่ายจิตของรุ่นพี่ที่อายุมากว่าตัวเอง
ท้องฟ้าที่เคยเป็นสีเทาหม่นที่ประดับประดาด้วยเม็ดฝนนับไม่ถ้วนค่อยถูกกลืนกินด้วยก้อนเมฆสีดำ
ฝนไล่ช้างตกลงมาอย่างรวดเร็วไม่มีท่าทีว่าจะหยุดตก
ผมยกมือซ้ายขึ้นมาดูนาฬีกาเรือนสีเงินซึ่งบอกเวลา เป็นเวลา
18 : 57 น.
" เสียเวลาไป3ชั่วโมงเลยเหรอเนี่ย.." ผมบ่นออกมาเบาๆตามด้วยการถอนหายใจยาวๆออกมา
เมื่อเป็นเช่นนั้นผมไม่รีบรอช้ารีบวิ่งฝ่าดงฝนออกไปอย่างไม่รีรอ
มันไม่ตลกเลยนะที่จะให้ผมมาเสียเวลาเพราะรอใครคนใดคนหนึ่งแบบนี้
เสียงฝีเท้ากระทบกับพื้นผิวของถนนที่เต็มไปด้วยน้ำขัง เครื่องแบบนักเรียนราคุซันชุดสูทสีเทาที่เปียกปอนเรือนผมสีบานเย็นหนุ่มสลวยซึ่งเดี๋ยวนี้เต็มไปด้วยหยาดน้ำฝน
ราชาแห่งทีมบาสเกียวโต ที่สง่าผ่าเผยต่อผู้คนที่พบเห็นแต่บัดนี้ กับมองไปดู
เผินๆเหมือนลูกนกตกน้ำ
' แฮ่ก..แฮ่ก..'
เสียงหอบอันแ่วเบาเพราะโดนเสียงของสายฝนกลบเกลื่อนเอาไว้เด็กหนุ่มร่างสมส่วน หยุดชะงักไปวั่วขณะเพื่อพักให้อาการหอบจากการวิ่งมาหลายกิโล...
ทำไมกันนะ...
ผมรำพึงอยู่ในใจ
แล้วหลังจากนั้นเมื่อหยุดพักให้หายเหนื่อยไปสักพักผมก็รีบวิ่งจ้ำอ้าวไปอย่างไร้จุดหมายท่ามกลางผู้คนมากมายที่เดินไปมาค่อยๆเบาบางลง
ผมวิ่งโดยไร้จุดหมายและด้วยความบังเอิญรึเปล่ากันนะผมก็ไมทราบเหมือนกัน นี่ผมวิ่งมาจนถึงหน้าประตูโรงเรียนเซย์ริน เลยอย่างงั้นเหรอ ผมลังเลอยู่สักครู่หนึ่ง โดยการตัดสินใจว่าจะเข้าไปหลบฝนที่นั่นดีรึเปล่าเพราะดูท่าจะสถานการณ์ตอนนี้แล้วฝนไล่ช้างไม่มีท่าทีจะหยุดตกเลยแม้แต่น้อย
"ในเมื่อสถานการณ์ข้างนอกไม่เอื้ออำนวยการที่เราเข้าไปหลบฝนอยู่ในนั้นก็ดีเหมือนกันดีกว่าเป็นหวัดเพราะตากฝนโดยความผิดพลาดของตัวเอง"
เมื่อพูดเช่นนั้นแล้วก็ไม่รอช้าผมรีบสาวเท้าเดินเข้าไปโดยไม่สนว่าอะไรจะเกิดขึ้นหรือใครจะคิดยังไงก็ตาม
"ตุบ..ตุบๆๆ "
"สวบ"
ภายในโรงยิมที่มีแสงไฟเปิดอยู่เสียงเอี๊อดอ๊าดของรองเท้าบาสเก็ตบอลที่เสียดสีกับพื้นกับที่ลูกบอลสีส้มที่กระทบพื้นแล้วมือหนาๆของใครบางคนชู้ตลูกบาสลงห่วง เสียงนกหวีดเป่าบอกสัญญาณให้เป็นการบอกว่าพอแค่นี้ก่อน "เอาเป็นว่าวันนี้ซ้อมแค่นี้ก่อนก็แล้วกัน" โค้ชสาวผมน้ำตาลกล่าวพร้อมบอกให้แยกย้ายกันกับบ้าน
"ดีจังนะ..มิตรภาพแบบนี้" ผมพึมพำกับตัวเองเบาๆหลังจากที่แอบดูเจ้าพวกนี้ซ้อมกัน
แต่ก็ดูเหมือนว่าพวกนายจะพัฒนาฝีมือตัวเองขึ้นเยอะอย่างเห็นได้ชัดเลยนี่โดยเฉพาะนาย
คุโรโกะ
ผมยกมุมปากขึ้นมาเล็กน้อยแสดงความพึงพอใจคิดถูกจริงๆที่เขามาที่นี่ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของพวกเขาอนาคตอันไกล้จะถึงนี้ทีมโรงเรียนเซย์รินจะกลายเป็นคู่แข่งที่รับมืออยากอยู่พอตัวเลยล่ะสินะ
เมื่อคิดเช่นนั้นผมรีบเดินออกมากอนที่พวกเขาจะเห็นผมเข้ามันคงจะไม่ดีแน่ๆถ้าพวกเขาเห็นผมในสภาพนี้
แต่ก็มีเหตุที่ไม่คาดคิดไม่รู้ว่าคิดไปเองรึเปล่าทำไมบรรยากาศทิวทัศนืรอบๆถึงได้เบลอๆขนาดนี้ไม่นานนักภาพที่เบลอกับถูกดำดิ่งสู่ความมืดมิดไป..
.....
........
.....
........
......
....
...
..
.
.
.
.
กลิ่นหอมจัง...
กลิ่นนี้ไม่สิกลิ่นของแชมพูสระผมอันคุ้นเคยที่เคยได้กลิ่นนี้มาก่อน
ภาพตรงหน้าค่อยฉายขึ้นมาอีกครั้งคราวนี้สิ่งที่ผมมองเห็นครั้งแรกหลังจากที่ผมลืมตาขึ้นมา
ฝ้าเพดานสีขาว กับเตียงนอนที่หนานุ่ม ผมเอนตัวลุกขึ้นมาสำรวจสิ่งแวดล้อมรอบๆบริเวณ หนังสือการ์ตูนที่วางระเนระนาดไม่เป็นระเบียบ วีดีโอเกมส์ ฟิคเกอร์ และลูกบาสตรงมุมห้อง
แต่ที่น่าแปลกคือสิ่งที่ผมสวมใส่อยู่ตอนนี้กลับไม่ใช่ชุดเครื่องแบบของโรงเรียนราคุซัน แต่เป็นชุดนอนของใครบางคนที่คุ้นตาแต่จำไม่ค่อยได้ ถึงจะดูคับๆไปหน่อยแต่ก็ใส่ได้พอดี
'แอด..'
ประตูถูกเปิดออกพร้อมกับคำตอบไขข้อสงสัยของผม
ร่างบางของคนที่คุ้นเคยผมสีเฮลเซลนัทน้ำเสียงและนิสัยอันไร้เดียงสาเอ่ยขึ้นด้วยอาการกลัวสุดฤทธิ์
" เอ่อ..คุณอาคาชิ.."
" อา..อา..การเป็นยังไงบ้างครับ"
"ดีขึ้นหรือยังครับ"
ร่างทั้งร่างสั่นระริกด้วยความกลัวโดยที่มือทั้งสองข้างนั้นถือข้าวต้มอยู่
" อาการก็เริ่มดีขึ้นมาหน่อยนึงแล้วน่ะ"
ผมตอบหน้านิ่งที่ติดเป็นนิสัยโดยเฉพาะส่วนตัวของผมอยู่่แล้ว
" เอ่อคือ..เสื้อผ้าของผมไซส์มันอาจจะเล็กเกินไปสักหน่อย..อะ..เอ่อ"
เด็กหนุ่มร่างบางทำหน้าเลิกลั่กไปมาอย่างไม่เป็นสุขแสดงความวิตกกังวลอย่างชัดเจน
" ไม่ล่ะก็พอดีอยู่หรอกถึงจะคับๆบ้างตรงช่วงไหล่นิดหน่อยก็เถอะ"
ก็ใช่น่ะสิดูจากช่างไหล่แล้วดูเหมือนว่าเขาน่าจะบอบบางกว่าผมเสียด้วยซ้ำแต่ก็น่าแปกเหมือนกันที่เวลาที่ได้ลงเล่นสู่สนามกับเป็นพ้อยส์การ์ดที่ใจเย็นและรอบคอบอย่างไม่น่าเชื่อ
แต่พอมาเห็นในสภาพที่ดูเป็นคนปกติแล้วบุคคลิกของเขาก็น่ารักดีอยู่เหมือนกันราวกับลูกแมวน้อยอย่างไม่มีผิด ชวนให้น่าแกล้งดี
" เอ่อ..ข้าวต้มที่ผมทำมันอาจจะไม่ค่อยอร่อยเท่าไหร่มันอาจจะธรรมดาสักหน่อยนะครับสำหรับคุณอาคาชิ"
เขาลังเลก่อนที่จะส่งชามข้าวต้มที่ดูเหมือนจะธรรมดาอย่างที่เขาพูดแต่ก็น่าขอบคุณเขาไม่น้อย
เพราะถ้าเขาไม่ฝืนแบกผมมาที่ป่านนี้จะเป็นอะไรไปแล้วก็ไม่รู้ความรู้สึกของผมในตอนนี้คิดอย่างนั้น
ผมตักขึ้นมากินคำนึง ในความรู้สึกของผมคือได้รับรู้ถึงความอบอุ่นและความรู้สึกบางอย่างที่ผมไม่เคยรู้จัก มันรสชาติดีเสียจนไม่ทันระวังเผลอแอบอมยิ้มออกมาให้คนตรงหน้าเห็นซะแล้ว
" อะ..อะ..หวา.คุณอาคาชิทำหน้าแบบนั้นได้ด้วยระระระเหรอครับ"
ดูเหมือนว่าเขาคงเห็นผมยิ้มแบบนี้เป็นครั้งแรกสินะถึงได้อ้ำอึ้งตกอกตกใจขนาดนี้ผมมองไปที่เขาแล้วสังเกตปฏิกิริยาที่แสดงออกอย่างชัดเจนใบหน้าที่เนียนละเอียดกลับขึ้นสีระรือไปจนถึงใบหู
เมื่เห็นว่าถ้าจะไม่ดีแล้วร่างบางผมสีเฮลเซลนัทรีบถอยกรูดหันหลังกอดเข่าพิงพนังตรงมุมห้องลำตัวสั่นระริกด้วยอาการเขินสุดฤทธิ์
" นี่..โคคินายเป็นอะไรไป.."
เขาเอ่ยสักถามคนตรงมุมห้องโดยที่เขานั้นเองก็น่าแดงเหมือนกัน
" อ..ยะ..ยะ..อย่า..เข้ามานะ!!!"
"ทำไมล่ะ"
"อย่ามองผมตอนนี้เลยครับคุณอาคาชิ"
"แล้วยังไง"
" หน้าตาของผมดูไม่ได้เลยแถมยังดูตลกมากคือแบบว่าขะขะขะเขินจะตายอยูแล้ว"
อุก..ทำไมกันนะทำไมเขาถึงได้ทำตัวน่ารักอย่างนี้กันนะชักอยากเห็นแล้วสิ
" โคคิให้ฉันได้ดูหน่อยใบหน้าตอนนี้ของนายน่ะ ขอให้ฉันดูเถอะฉันไม่ว่าอะไรหรอก"
คำสั่งที่เหมือนเป็นคำขาดผมขอร้องให้เขาหันหน้ามาโคคิใช้เวลาลังเลไปชั่วขณะก่อนที่จะหันหน้ามาสบตาผม
ทันทีที่เขาหันมา ใบหน้าแดงก่ำกับน้ำตาที่คลอเบ้าค้างอยู่ลำตัวสั่นอยู่ไม่เป็นสุข จนทำให้ผมมีความคิดนงที่ก้องกังวานอยู่ในใจ
น่ารักจริงๆเหมือนลูกแมวอีกแล้ว
" แผล็บ~"
" อุหวา~~~~"
ผมใช้ลิ้นเลียคราบน้ำตาที่เอ่อล้นออกมาการตอบสนองของเขายิ่งทำให้น่าแกล้งเข้าไปใหญ่
ผมเชิดคางเขาขึ้นมาก่อนที่จะเอาหน้าเข้าไปไกล้ๆ
" อะอะอะอะอะ คุณอาคาชิจะทำอะไรครับ"
เขินจัดจนพูดติดอ่างเลยสินะแต่ถ้าจะให้พอใจมากกว่านี้ก็ต้องให็เาเรียกชื่อผม
" นี่โคคิ เรียกชื่อฉันสิ"
"ตะ..แต่จู่ๆให้เรียกชื่อมันก็"
"เรียกชื่อฉันสิโคคิ!!"
ผมรีบพูดสวนอย่างเป็นทางการกับสายตาที่แน่วแน่ที่ผมมองไปยังเขา
"เรียกสิโคคิ"
ผมบีบเค้นให้เขาพูดชื่อของผมเร็วๆ
" เซย์จูโร่ "
" ดีมาก..โคคิ."
ผมมอบรางวัลให้เขาโดยการ ประกบปากจูบอีกฝ่ายอย่างอ่อนโยนซึ่งตอนนี้ผมรู้ดีอยู่แล้วว่าตัวเองก็เขินไม่แพ้กัน
ภายใต้ค่ำคืนที่เต็มไปด้วยดวงดาวนับล้านประดับประดาอยู่บนท้องฟ้าอย่างสวยงาม
บนเตียงที่หนานุ่มซึ่งเต็มไปด้วยความอบอุ่นร่างของเด็กหนุ่มผมสีบานเย็นนุ่มสลวยโอบกอดร่างบางผมสีเฮลเซลนัทหน้าตาจิ้มลิ้มไร้เดียงสาเหมือนเด็กไว้ในอ้อมแขน ทั้งคู่นอนหลับสนิทภายใต้ค่ำคืนอันแสนวิเศษที่หาที่ไหนไม่ได้
"ผมขออยู่ต่อกับลูกแมวน้อยของผมอีกสักนิดก็ดีเหมือนกัน"
THE END
ป.ล // มีแรงบันดาลใจเพราะรูปนี้
// ขออภัยให้ข้าน้อยด้วยเถอะขอรับ เขียนฟิคไปเขียนฟิคมาท่านอาคาชิซามะกลับออกมาน่ารักกว่าคาแรตเตอร์ในความเป็นจริงเสียอีกอันนี้ไม่ได้ตั้งใจ(มั้ง) แต่บางที่ก็เคยคิดอยู่เหมือนกันว่าให้อาคาชิเป็นแบบนี้ก็ไม่เลวเหมือนกันซะงั้น (555)
ด้วยรัก ปาท่องโก๋
By Yuhey
ความคิดเห็น